สหรัฐ 17 ม.ค.- ปัญหาการขาดงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานหน่วยงานรัฐบาลส่วนกลาง หรือชัตดาวน์ ของสหรัฐ ดำเนินมาครบ 4 สัปดาห์แล้ว และยังไร้วี่แววว่าจะหาทางออกในเรื่องนี้ได้
ไม่เพียงเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐเท่านั้น ที่ได้รับผลกระทบจากการชัตดาวน์ ร้านค้า และธุรกิจต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางไม่ได้รับเงินค่าจ้างจากปัญหาชัตดาวน์ ร้านค้า และธุรกิจต่างๆ ก็พลอยขาดรายได้ตามไปด้วย เจ้าหน้าที่รัฐบางคนถึงกับต้องขายทรัพย์สินที่ตัวเองมีอยู่ หรือแม้กระทั่งไปขอรับอาหารจากโรงทานเพื่อประทังชีวิต กลุ่มอาสาสมัครต้องรวบรวมอาหารและนำออกแจกจ่ายกับผู้ที่เดือดร้อนจากการชัตดาวน์
ขณะที่ธนาคารและบริษัทด้านการสื่อสารของสหรัฐ ต้องผ่อนคลายกฎระเบียบในการชำระเงิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการชัตดาวน์ แม้กระทั่งองค์กรที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ยังประกาศให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวเจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากการชัตดาวน์ ด้วยการแจกจ่ายอาหารสุนัขและแมวฟรี
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวี่แววว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนักการเมืองสังกัดพรรคเดโมแครตที่ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสจะสามารถตกลงยุติปัญหาชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมได้ ส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ภาครัฐกว่า 800,000 คน และที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ พนักงานสัญญาจ้างหลายล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย ด้านทรัมป์ ยืนกรานว่าไม่ยอมยุติปัญหาชัตดาวน์จนกว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเห็นชอบสนับสนุน
งบประมาณสร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโกมูลค่า 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐเสียก่อน ขณะที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ พยายามกดดันให้ทรัมป์ เลื่อนการแถลงนโยบายประจำปีในวันที่ 29 มกราคมนี้ออกไปก่อน จนกว่าปัญหาชัตดาวน์จะได้รับการแก้ไข พร้อมกับระบุด้วยว่า ปัญหาชัตดาวน์กำลังส่งผลกระทบต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ.-สำนักข่าวไทย