ลอนดอน 10 ม.ค.- บริษัทยานยนต์ทั่วโลกจะทุ่มเงินอีก 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.58 ล้านล้านบาท) ให้แก่เทคโนโลยีรถไฟฟ้าในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า ในจำนวนนี้เกือบครึ่งจะมุ่งเป้าหมายไปที่จีน
ผู้บริหารแวดวงยานยนต์โลกเผยว่า จีนไล่ตามเทคโนโลยีการสันดาปภายในรถยนต์ของเยอรมนี ญี่ปุ่น และสหรัฐมาหลายทศวรรษ แต่ตอนนี้จีนกำลังจะขึ้นแท่นผู้นำการพัฒนารถไฟฟ้าของโลก ผู้บริหารโฟล์กสวาเกนของเยอรมนีถึงกับกล่าวว่า อนาคตของบริษัทขึ้นอยู่กับตลาดจีน บริษัทได้ลงทุนร่วมกับเอสเอไอซีมอเตอร์และเอฟเอดับเบิลยูคาร์ สองผู้ผลิตยานยนต์ใหญ่ที่สุดของจีนมาหลายทศวรรษแล้ว จีนเป็นสถานที่ที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการพัฒนารถรุ่นใหม่ และมีทักษะที่เหมาะสม ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้เพียงบางส่วนในยุโรปหรือประเทศอื่น จีนมีนโยบายที่ชัดเจน ทั้งผู้กำหนดนโยบายและเจ้าหน้าที่ล้วนต้องการเปลี่ยนไปสู่การใช้รถไฟฟ้า
รอยเตอร์ชี้ว่า การที่จีนและหลายประเทศเริ่มเข้มงวดการใช้เครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ทำให้บริษัทยานยนต์ต้องเร่งปรับตัว ปีที่แล้วบริษัทยานยนต์ทั่วโลกบอกว่าจะใช้เงินพัฒนารถไฟฟ้า 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.87 ล้านล้านบาท) แต่ตอนนี้ตัวเลขเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าเป็น 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.58 ล้านล้านบาท) มุ่งผลิตรถไฟฟ้าจำนวนมากในจีน ยุโรปและอเมริกาเหนือ ในจำนวนนี้เกือบหนึ่งในสามเป็นงบของโฟล์กสวาเกนที่ตั้งเป้าจะผลิตรถไฟฟ้ามากถึง 15 ล้านคันภายในปี 2568
ด้านอะลิกซ์พาร์ทเนอร์ส บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการชี้ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเร่งลงทุนเรื่องยานยนต์และแบตเตอรีไฟฟ้า ขณะเดียวกันก็ต้องมองหาพันธมิตรและหุ้นส่วนให้มากขึ้นเพื่อช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนที่สูงขึ้น.- สำนักข่าวไทย