ลอนดอน 9 ม.ค.- สังคมอังกฤษยังคงมีความแตกแยกอย่างหนักเรื่องสหราชอาณาจักรจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิท ทั้งที่ลงประชามติไปตั้งแต่กลางปี 2559 และจะต้องแยกตัวภายในเดือนมีนาคมนี้
สมาชิกสภาอังกฤษยอมรับว่า กระแสสาธารณชนนอกสภารุนแรงกว่าในสภาที่มีจุดยืนเรื่องเบร็กซิทแบ่งเป็นสองขั้วเสียอีก จนเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองอังกฤษและอะไรคือขอบเขตของเสรีภาพในการแสดงออก สมาชิกสภากว่า 60 คนมีทั้งผู้ที่สนับสนุนและคัดค้านเบร็กซิทส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจนครบาลลอนดอน แสดงความเป็นห่วงเรื่องความไร้ระเบียบและความปลอดภัยรอบรัฐสภาที่แย่ลง กลุ่มผู้มีแนวคิดขวาจัดกระทำการข่มขู่และอาจเข้าข่ายการกระทำผิดอาญามากขึ้น ส่วนที่สวนสาธารณะตรงข้ามรัฐสภาที่สื่อมวลชนมักใช้สัมภาษณ์นักการเมืองโดยมีฉากหลังเป็นกลุ่มผู้ประท้วงที่ชุมนุมอย่างสงบ บรรดานักการเมืองและสื่อมวลชนเผยว่า ช่วงหลายสัปดาห์นี้บรรยากาศน่ากลัวมาก
ร็อบ ฟอร์ด อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์กล่าวถึงกรณีของนางแอนนา ซูบรี สส.พรรคอนุรักษ์นิยมของเป็นรัฐบาลที่สนับสนุนอียูและเรียกร้องให้ลงประชามติใหม่ ถูกผู้ชายกลุ่มใหญ่รุมล้อมตะโกนด่าทอหน้ารัฐสภาเมื่อวันจันทร์ว่า เป็นอาการป่วยหนักขึ้นของการเมืองอังกฤษ เป็นกระแสโน้มเอียงไปทางไม่เชื่อใจการเมือง นักการเมือง ตัวแทนหน่วยงาน และสื่อมวลชนหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนมาแสดงออกชัดเจนเมื่อต้องแก้ปัญหาซับซ้อนอย่างกรณีของเบร็กซิท การที่นักการเมืองพากันถกเถียงแสดงจุดยืนเรื่องเบร็กซิทยิ่งกระตุ้นความโน้มเอียงนี้ จนกลายเป็นว่าสัตว์ร้ายที่นักการเมืองปลดปล่อยออกมาได้ย้อนกลับมาเล่นงานพวกเขาเองแล้ว.- สำนักข่าวไทย