สหรัฐยืนยันยึดมั่น นโยบายจีนเดียว



สหรัฐ 6 ธ.ค.-ทำเนียบขาวต้องรีบออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐยังคงยึดมั่นนโยบายจีนเดียว ที่ถือปฏิบัติมานานถึง 40 ปี หลังจีนยื่นประท้วง และไม่พอใจอย่างยิ่ง ต่อการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี คนที่ 45 ของสหรัฐ แอบคุยโทรศัพท์ส่วนตัวกับประธานาธิบดี ไช่อิง เหวิน ผู้นำหญิงของไต้หวัน อันเป็นเสมือนการยอมรับว่า ฃไต้หวันเป็นประเทศที่มีอธิปไตยของตัวเอง ขณะที่จีนยืนกรานมาโดยตลอดว่า ไต้หวันเป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของจีนเท่านั้น


t1 t2

นาย จอช เออร์เนสต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ชี้แจงเรื่องนี้ต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน 2 ครั้ง ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อย้ำเตือนและเสริมสร้างความเชื่อมั่น ให้แก่จีนว่ารัฐบาลสหรัฐยังคงยึดมั่นนโยบายจีนเดียว เพื่อรักษาสันติภาพ และเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งสหรัฐยึดมั่นมาโดยตลอด นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์ ประกาศรับรอง นโยบายจีนเดียว มาตั้งแต่ปี 2522 ขณะที่จีนระบุว่า ทั่วโลกทราบดีว่าจีนยึดมั่นนโยบายจีนเดียว และหวังว่านายทรัมป์ และทีมงานของเขา ก็ต้องทราบดีเช่นกัน ก่อนหน้านั้นจีนตำหนิว่าทรัมป์ไร้ประสบการณ์ที่แหวกม่านประเพณี ที่สหรัฐเคยรักษาไว้ตลอด 37 ปีที่ผ่านมา ด้วยการติดต่อพูดคุยกับผู้นำไต้หวัน

t5 t3


ขณะเดียวกันอีวังก้า ทรัมป์ ลูกสาวคนสวยของนายทรัมป์ได้ติดต่อให้นายอัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ สังกัดพรรคเดโมแครต และนักต่อสู้เรื่องการลดภาวะโลกร้อนคนสำคัญ เข้าพบกับนายทรัมป์ที่อาคาร ทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ก โดยนายกอร์ระบุว่า เขาได้คุยกับนายทรัมป์ เรื่องภาวะโลกร้อนและการสนทนาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ แม้ก่อนหน้านั้นทรัมป์จะพูดเสมอว่าภาวะโลกร้อน ไม่ใช่เรื่องจริงเป็นเรื่องหลอกลวงที่จีนแต่งขึ้น แต่หลังเขาชนะเลือกตั้งทรัมปป์กลับมีท่าทีเปลี่ยนไป โดยกล่าวว่าจะทบทวนเรื่องนี้ใหม่ ขณะที่อีวังก้า ทรัมป์ ซึ่งเป็น 1 ในทีมงานถ่ายโอนอำนาจการบริหารประเทศของพ่อ ระบุว่าเธอจะให้ความสำคัญกับเรื่องสภาวะโลกร้อนเป็นนโยบายหลัก ในรัฐบาลชุดใหม่ ขณะที่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าลูกสาวของทรัมป์คนนี้จะรับตำแหน่งใดในรัฐบาลชุดนี้

บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ได้ยื่นหนังสือถึงประธานาธิบดีโอบามา ขอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ 1,241 ล้านบาท แก่ทางการนิวยอร์ก เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดโดยรอบอาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ที่ตั้งอยู่บนถนนสายที่ 57 ในย่านฟิฟท์อเวนิว อาคารดังกล่าวตั้งอยู่ในย่านการค้าที่มีชื่อเสียงของนครนิวยอร์ก ที่มีผู้คนพลุกพล่าน โดยขณะนี้อาคารดังกล่าวกำลังถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการในการฟอร์มครม.ใหม่ ของนายทรัมป์ และขณะนี้มันยังกลายเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมา และคาดว่าจะมากยิ่งขึ้นในช่วงคริสมาสต์ และปีใหม่นี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ