วอชิงตัน 28 ธ.ค.- ผลสำรวจพบว่า ชาวอเมริกันโทษประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มากกว่าพรรคเดโมแครตว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ต้องปิดที่ทำการรัฐบาลหรือชัตดาวน์บางส่วนมาตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม และยังไม่มีวี่แววว่าจะยุติในเร็ว ๆ นี้
รอยเตอร์/อิปซอสอ้างคำตอบออนไลน์ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 2,440 คน แยกเป็นผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน 846 คน ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 946 คน ระหว่างวันที่ 21-25 ธันวาคม ผู้ตอบร้อยละ 57 โทษทรัมป์ว่าเป็นต้นเหตุชัตดาวน์ครั้งล่าสุด ร้อยละ 33 โทษสมาชิกสภาพรรคเดโมแครต และร้อยละ 7 โทษสมาชิกสภาพรรครีพับลิกัน ผู้ตอบร้อยละ 35 เห็นว่าควรรวมงบสร้างกำแพงเม็กซิโกไว้ในร่างงบประมาณฉุกเฉินของสภา และร้อยละ 25 สนับสนุนที่ทรัมป์ชัตดาวน์เพราะไม่ได้งบตามที่ต้องการ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 162,000 ล้านบาท) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างกำแพงที่ต้องใช้งบทั้งหมด 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 745,000 ล้านบาท)
โฆษกทำเนียบขาวแถลงวานนี้ว่า ประธานาธิบดีได้พูดชัดเจนแล้วว่าร่างงบประมาณจะต้องสนับสนุนการรักษาความปลอดภัยพรมแดนอย่างเพียงพอ อย่างไรก็ดี โฆษกไม่ได้แตะเรื่องการสร้างกำแพงแต่อย่างใด ด้านสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเปิดประชุมไม่กี่นาทีในวันเดียวกันโดยไม่ได้มีข้อสรุปใด ๆ และได้เลื่อนการประชุมไปเป็นสัปดาห์หน้า
การชัตดาวน์บางส่วนยังไม่เห็นผลกระทบมากนักในขณะนี้เพราะเป็นช่วงเทศกาลวันหยุด มีเพียงลูกจ้างรัฐบาล 800,000 คนที่ต้องพักงานหรือทำงานโดยไม่ได้ค่าจ้างในหน่วยงานรัฐบาลกลางร้อยละ 20 เพราะอีกร้อยละ 80 ได้รับงบประมาณไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนปีหน้าแล้ว หากการชัตดาวน์ยืดเยื้อไปจนถึงสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ที่พรรคเดแครตจะครองเสียงข้างมากแทนพรรครีพับลิกันตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม สถานการณ์อาจยิ่งเขม็งเกลียวมากยิ่งขึ้น.- สำนักข่าวไทย