ส่องโรงงานปั้นนางงาม ไม่ง่าย..!! กว่าจะได้ “มง”

ฟิลิปปินส์ 20 ธ.ค.- เบื้องหลังมหาอำนาจนางงาม “ฟิลิปปินส์” หยาดเหงื่อ คราบน้ำตา และความลุ่มหลงในความงาม


ฟิลิปปินส์เคยมีตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในจักรวาลเท่ากับประเทศไทย คือ 2 คนอยู่นานหลายปี จนกกระทั่ง เพีย วูร์ทซบาค สามารถรคว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สมาได้ในการประกวดประจำปี 2015 และล่าสุดกับการประกวดในประเทศไทยที่ตัวแทนของฟิลิปปินส์อย่าง แคทรีโอนา เกรย์ ที่คว้ามงกุฎไปครองได้ในท้ายที่สุด จนกลายเป็นผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์คนที่ 4 ที่ได้รับตำแหน่งผู้หญิงที่สวยที่สุดในจักรวาลไปครอง


ในฟิลิปปินส์ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงนิยมการประกวดนางงาม และมองว่าเวทีประชันโฉมไม่ได้เป็นเรื่องการเหยียดเพศ แต่ตรงกันข้ามชาวฟิลิปปินส์ยังเชื่อว่า “เวทีประกวดนางงาม” คือการเชิดชูสตรี และเปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้แสดงพลังในตัวเองออกมาด้วย

ธุรกิจเวทีประกวดเม็ดเงินมหาศาล ความนิยมในการประกวดนางงามที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาจนทำให้ธุรกิจเวทีประกวดมีเม็ดเงินหมุมเวียนเพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่ง จากเดิมในปี 2010 ธุรกิจประกวดสาวงามในฟิลิปปินส์ได้รับเงินสปอนเซอร์จากภาคธุรกิจรวมทั้งหมดประมาณ 2.78 ล้านเปโซ (1.7 ล้านบาท) ตัวเลขก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 35 ล้านเปโซ (24 ล้านบาท) ในปี 2014 ยอดขายตั๋วเข้าชมการประกวดนางงามยังพุ่งกระฉูดจาก 1.2 ล้านใบในปี 2010 เป็น 4 ล้านใบในปี 2014 ด้วย


โรงงานผลิตสาวงาม สาวสวยจำนวนมากในกรุงมะนิลา และหัวเมืองใหญ่ๆ ของฟิลิปปินส์ จะเข้ารับการฝึกฝนระดับมืออาชีพ ทั้งการเดินในรองเท้าส้นสูง ฝึกโพสท่า ฝึกการยิ้มแย้ม และการแสดงออกบนเวทีประกวด รวมถึงฝึกฝนในการโชว์โฉมในชุดว่ายน้ำ ตั้งแต่พวกเธอบางคนยังใช้คำนำหน้าว่า “เด็กหญิง” ด้วยซ้ำ

ในฟิลิปปินส์จะมี “ศูนย์ฝึก” สำหรับอบรบหญิงสาวเพื่อเตรียมความพร้อมในการขึ้นเวทีประกวดอยู่มากมาย รวมถึง Kagandahang Flores  หรือ “โรงเรียนดอกไม้งาม” ของ โรดิน กิลเบิร์ต ฟลอเรส ที่เคยฝึกฝนจน บี โรส ซานติอาโก สามารถคว้าตำแหน่ง Miss International 2013  และ เจมี แฮร์เรล ได้ครองตำแหน่ง Miss Earth 2014 มาแล้ว

ฟลอเรส เชี่ยวชาญในการฝึกฝนการเดินบนเวทีประกวด ด้วยลีลาที่เรียกกันว่า “ท่าเป็ด” ซึ่งสาวงามจะเดินส่ายสะโพกในลีลาที่ชวนมอง เพื่อดึงดูดคะแนนจากเหล่าคณะกรรมการ สาวงามในสังกัดจะฝึกฝนการเดิน และการโพสท่าอย่างหนัก ต้องทำท่าซ้ำๆ เดิมจน “กล้ามเนื้อจดจำทุกลีลาเอาไว้ได้ และยังได้เรียนรู้เรื่องการควบคุมน้ำหนัก รักษารูปร่าง แต่งหน้า รวมถึงแนะนำเรื่องการศึกษาหาความรู้ทั้งเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงประวัติศาสตร์ต่างๆ สำหรับการตอบคำถามบนเวที เพื่อให้ทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติที่สุด

เส้นทางสู่ความสำเร็จ หนทางหลุดจากความยากจน หญิงสาวชนชั้นกลาง หรือเหล่านักศึกษาในมหาวิทยาลัย ต่างหวังว่าเวทีประกวดจะเป็นโอกาสให้พวกเธอได้เข้าวงการบันเทิง หรือวงการแฟชั่น แต่สำหรับหญิงสาวในครอบครัวชนชั้นล่างปากกัดตีนถีบ พวกเธอบางคนอาจจะหวังแค่เงินรางวัลระดับไม่กี่พันเปโซ หรือ โทรทัศน์จอ 21 ซักเครื่อง

 

นอกจากนั้นก็ยังมีหญิงสาวหลายคนที่ยอมรับว่ามองเวทีประกวดเป็นหนทางที่จะทำให้พวกเธอหลุดพ้นจากความยากจน เหมือน จานีเซล ลูบินา อดีตผู้เข้าประกวดมิสฟิลิปปินส์ที่มีพื้นเพเป็นคนทำความสะอาดพื้น ที่กล่าวว่าหากไม่มีการประกวดนางงาม เธอก็คงไม่มีหนทางที่จะหลุดจากวงเวียนชีวิตแบบเดิมๆ

สำหรับชาวฟิลิปปินส์แล้ว “เวทีนางงาม” จึงเป็นทั้งเวทีของโอกาส เป็นความคลั่งไคล้ กับความภาคภูมิใจของประชาชนในชาติ และเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ไม่เลว จนกลายเป็นความลงตัวที่ทำให้วงการประกวดในฟิลิปปินส์รุ่งเรืองจนขึ้นมาอยู่แถวหน้าของโลก

ด้านเด็กหญิงในเวเนซุเอลาต่างตั้งความหวังอย่างเดียวกันว่าเมื่อโตขึ้นจะต้องเป็น “นางงามแห่งเวเนซุเอลา” ด้วยรูปร่าง 90-60-90 เซนติเมตร ในยุคก่อนหากเปิดดูสมุดหน้าเหลืองของกรุงคาราคัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลา ก็จะได้เห็นกันว่า มีหมายเลขโทรศัพท์ของร้านเสริมสวยและสปา อยู่มากกว่าร้านขายยาเสียอีก แต่ปัจจุบันซบเซาอย่างมาก

การประกวดเมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น “เมืองนางงาม” เวเนซุเอลา เพิ่งได้ มิสเวเนซุเอลา 2019 น.ส.อิสซาเบลลา โรดรีเกซ นางแบบวัย 25 ปี สาวงามจากย่านชุมชนแออัดย่านเปตาเร แหล่งชุมชนแออัดที่มีคนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นกว่า 500,000 คน ชานกรุงคาราคัส

หลายคนบ่นผ่านทวิตเตอร์ว่า งานจืดชืดน่าเบื่อ เกิดความผิดพลาดหลายอย่าง เช่น ผู้ประกวดคนหนึ่งเดินออกมาบนเวทีโดยไม่มีสายสะพายว่าเป็นตัวแทนจากรัฐไหน ผู้ประกวดอีกคนชุดหลุดขณะเต้นบนเวที เวเนซุเอลาตกอยู่ในวิกฤติเศรษฐกิจเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน สินค้าจำเป็นพื้นฐานขาดแคลนจนคนหนีออกนอกประเทศไปแล้ว 2.3 ล้านคน กองประกวดมิสเวเนซุเอลาครั้งที่ 65 ต้องปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจด้วยการ ย้ายสถานที่จัดจากคารากัสโพลีเฮดรอนอารีนา สนามกีฬาในร่มที่จุคนได้ 20,000 คน ไปเป็นสตูดิโอสถานีโทรทัศน์ที่จุคนได้เพียง 200 คน ลดความหรูหราต่างๆ ลง เสื้อผ้าหน้าผมขอจากสปอนเซอร์แลกกับการโฆษณาให้ทางโทรทัศน์ จ้างคนหนุ่มสาวมาเล่นดนตรีและการแสดงประกอบ ตัวแทนสาวงามบางคนเพิ่งเคยขึ้นเวทีเป็นครั้งแรก ไม่มีดารานักแสดงดังๆ เหมือนในอดีต ผู้ประกวดหลายคนขึ้นรถสาธารณะมาซ้อม กองประกวดเผยว่า ผู้เข้ารอบทั้ง 24 คนก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกับคนทั้งประเทศ

นอกจากวิกฤติเศรษฐกิจแล้ว การลดความหรูหราของงานยังเป็นไปเพื่อลดกระแสอื้อฉาวที่กองประกวดถูกกล่าวหาเมื่อหลายเดือนก่อนว่า จัดหาสาวๆ ผู้เข้าประกวดให้แก่สปอนเซอร์ที่มีทั้งนักธุรกิจร่ำรวยและข้าราชการนายออสเมล ซูซา เจ้าของฉายาราชาความงาม ผู้จัดการประกวดมิสเวเนซุเอลามาร่วม 40 ปีต้องลงจากตำแหน่งแม้ยืนกรานว่าไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหา กองประกวดได้กำหนดระเบียบใหม่ห้ามสาวงามรับเงินสนับสนุนหรือได้รับการเสนอชื่อจากบุคคลภายนอก และต้องสมัครเป็นตัวแทนเข้าประกวดจากแต่ละรัฐด้วยการกรอกใบสมัครออนไลน์ ผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนเวเนซุเอลาไปประกวดนางงามจักรวาล หรือมิสยูนิเวิร์สปี 2019 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงย้ำเวทีโลกกัมพูชาเปิดฉากโจมตีก่อน UNSC แนะเจรจาสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 26 ก.ค.- “มาริษ” เผยเวที UNSC ให้ไทยกัมพูชายับยั้งชั่งใจ เจรจา 2 ฝ่ายสันติวิธียุติขัดแย้ง ย้ำแจงเวทีโลกแล้วกัมพูชาละเมิดอธิปไตยไทย-เปิดฉากโจมตีก่อน บอกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เป็นการคุกคามสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ สั่งกรมสนธิฯ พิจารณายื่นศาลอาญาโลกฟ้องเขมรฐานอาชญากรสงคราม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025) หรือ HLPF2025 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในห้วงการประชุมดังกล่าว ตนเองได้ใช้โอกาสนี้ พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากสหประชาชาติ และผู้แทนระดับสูงประเทศต่าง ๆ เพื่อชี้แจงพัฒนาการชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งตนเองได้ยืนยันให้ทุกประเทศ และผู้แทนระดับสูงของสหประชาชาติได้รับทราบมาโดยตลอดการปฏิบัติภารกิจว่า การปะทะกันเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ฝ่ายกัมพูชา เป็นผู้เริ่มโจมตีก่อน พร้อมแสดงความกังวล ต่อการโจมตีในสถานที่ที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งสะท้อนการโจมตีพื้นที่พลเรือนไทย […]

องคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทาน ศูนย์อพยพ จ.ศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ค.- สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนศรีสะเกษ ดุเดือดกว่าทุกวัน ขณะองคมนตรีมอบสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนที่ศูนย์อพยพ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรีเดินทางมายังที่พักอาศัยของผู้อพยพ จ.ศรีสะเกษ มอบสิ่งของพระราชทานให้กับประชาชน พร้อมแจ้งให้ทราบถึงกระแสความห่วงใย หลังทราบข่าวประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ทรงมีความห่วงใยประชาชนและไม่ประสงค์ที่จะเห็นมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ขอให้ประชาชนอยู่ในพื้นที่อพยพไปอีกสักระยะ ขณะเดียวกัน พยาบาลจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ให้บริการตรวจดูแลสุขภาพเบื้องต้นและปฏิบัติการทางจิตรฉรีญาพร้อมมอบสิ่งของให้กับผู้อพยพหลังต้องจากบ้านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งตามหลักบางรายอาจเกิดความเครียดสะสมขึ้นได้ ปกติแล้วบริเวณศูนย์อพยพแห่งนี้ซึ่งห่างจากชายแดนประมาณ 40 กิโลเมตร จะไม่ได้ยินเสียงปืนใหญ่ แต่วันนี้แม้จะอยู่ที่ศูนย์อพยพก็สามารถได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น ไม่น้อยกว่า 9 นัดแล้วในขณะนี้ -สำนักข่าวไทย

เชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอด “ภูมะเขือ” กองทัพยึดคืนพื้นที่เบ็ดเสร็จ

26 ก.ค.- ธงชาติไทยโบกสะบัด! ปักยอด “ภูมะเขือ” หลังทหารไทยเปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่คืนจากฝ่ายกัมพูชาสำเร็จช่วงเย็นวานนี้ กองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 09.20 น. ได้มีการเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดภูมะเขือ หลังจากที่ทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตียึดพื้นที่ภูมะเขือ ซึ่งเป็นบริเวณที่ฝ่ายทหารกัมพูชาได้วางกำลังไว้อย่างหนาแน่น และสามารถยึดพื้นที่ได้สำเร็จเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาในการเข้าตีเพื่อแย่งยึดพื้นที่คืนอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการระดมยิงปืนใหญ่และเตรียมการจัดกำลังเข้าตีตอบโต้ฝ่ายไทย -สำนักข่าวไทย