วอชิงตัน 12 ธ.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเผยว่า พร้อมแทรกแซงเรื่องประธานเจ้าหน้าที่การเงิน (ซีเอฟโอ) ของหัวเว่ยเทคโนโลยีถูกจับโทษฐานละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ หากจะช่วยให้สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน
ประธานาธิบดีทรัมป์ให้สัมภาษณ์พิเศษสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ห้องทำงานรูปไข่วานนี้ว่า หากเขาคิดว่าจะเป็นผลดีกับประเทศ จะทำให้ได้ข้อตกลงการค้าใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา จะเป็นผลดีต่อความมั่นคงของประเทศ เขาก็จะแทรกแซงแน่นอนถ้าเห็นว่าจำเป็น ผู้สื่อข่าวถามว่า นางเมิ่ง หว่านโจว วัย 46 ปี ซีเอฟโอและลูกสาวผู้ก่อตั้งหัวเว่ยจะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ หลังจากศาลแคนาดาให้ประกันตัวแล้วและรอขึ้นศาลเรื่องส่งตัวไปสหรัฐที่กล่าวหาเธอว่า ทำให้ธนาคารข้ามชาติเข้าใจผิดว่าหัวเว่ยไม่ได้เป็นเจ้าของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในอิหร่าน เป็นเหตุให้ธนาคารเหล่านี้เสี่ยงละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและจะถูกลงโทษสถานหนัก ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบว่า อาจมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นได้ หรือเรื่องนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา เขาจะต้องคุยกับกระทรวงยุติธรรมและอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากเห็นนางเมิ่งถูกส่งตัวมาสหรัฐหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่าขอดูก่อนว่าจีนต้องการอะไร แต่พฤติกรรมที่หัวเว่ยถูกกล่าวหาก็เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาจริง ๆ
ผู้นำสหรัฐยังพูดถึงผลพวงจากการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนนอกรอบการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (จี 20) ที่อาร์เจนตินาว่า เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายกำลังหารือกันทางโทรศัพท์ คาดว่าจะมีการประชุมติดตามมา และว่ารัฐบาลจีนได้กลับมาสั่งซื้อถั่วเหลืองสหรัฐเป็นจำนวนมากอีกครั้ง หลังจากเรียกเก็บภาษีถั่วเหลืองเมื่อเดือนกรกฎาคมตอบโต้ที่ถูกสหรัฐเก็บภาษีสินค้าอื่น ๆ แต่เมื่อรอยเตอร์สอบถามผู้ค้าสินค้าโภคภัณฑ์ในชิคาโกกลับได้รับคำตอบว่า ยังไม่เห็นว่าจีนกลับมาสั่งซื้อใหม่ ปีที่แล้วทั้งปีจีนนำเข้าถั่วเหลืองสหรัฐถึงร้อยละ 60 มูลค่ากว่า 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 393,349 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย