เคียฟ 26 พ.ย.- รัสเซียยืนยันยึดเรือ 3 ลำของกองทัพเรือยูเครนในช่องแคบใกล้คาบสมุทรไครเมียที่ถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียตั้งแต่ปี 2557 จุดกระแสวิตกเรื่องความตึงเครียดทางทหารขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
สำนักงานความมั่นคงกลาง (เอฟเอสบี) ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองในประเทศของรัสเซียและมีหน้าที่ดูแลพรมแดนแถลงยืนยันว่า ได้ใช้อาวุธเพื่อหยุดยั้งเรือกองทัพเรือยูเครน 3 ลำ และได้ขึ้นเรือไปตรวจค้นด้วย เนื่องจากเรือยูเครนไม่ทำตามที่ทางการรัสเซียเรียกร้องทางกฎหมายและมีเจตนาจะสร้างความขัดแย้งในภูมิภาค ด้านกองทัพเรือยูเครนกล่าวหารัสเซียว่า ยิงใส่เรือยูเครนในช่องแคบเคิร์ช เป็นเส้นทางออกสู่ทะเลอาซอฟที่ทั้งสองประเทศใช้อยู่ เรือรบขนาดเล็ก 2 ลำ และเรือโยงหนึ่งลำกำลังแล่นผ่านช่องแคบนี้ จู่ ๆ เรือลาดตระเวนรัสเซียได้ขับมาชนเรือโยงยูเครนอย่างก้าวร้าวแล้วยิงใส่ ทำให้เรือทั้งสามลำต้องหยุด นอกจากนี้ยังมีเรือบรรทุกลำหนึ่งจอดขวางช่องแคบ และมีเครื่องบินทหารรัสเซียบินวนเหนือทะเลอะซอฟ ยูเครนอ้างว่า มีทหารบาดเจ็บ 6 นาย แต่รัสเซียแย้งว่า มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 3 คน และได้ให้การรักษาแล้ว
ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกของยูเครนได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อประเมินสถานการณ์และหารือมาตรการที่จะดำเนินต่อไป กระทรวงต่างประเทศยูเครนระบุว่า การกระทำก้าวร้าวของรัสเซียละเมิดกฎหมายสากลและจะต้องถูกตอบโต้ทางกฎหมาย เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหประชาชาติทวีตว่า จะแจ้งเรื่องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติโดยทันที ด้านสหภาพยุโรป (อียู) และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัสเซียคืนเสรีภาพการเดินเรือในช่องแคบเคิร์ช และขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้นอย่างที่สุดเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยทันที.-สำนักข่าวไทย