fbpx

จับ “คาร์สอส โกสน์” ประธานค่ายรถยักษ์ใหญ่

ญี่ปุ่น 20 พ.ย.- ช็อก..!! วงการรถยนต์โลก “คาร์ลอส โกสน์” ประธานค่ายรถยักษ์ใหญ่ ถูกจับข้อหาหนัก ยื่นรายได้เป็นเท็จ เลี่ยงภาษีมโหฬาร


สำนักข่าวเกียวโด รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า นายคาร์ลอส โกสน์ ประธานบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ถูกตั้งข้อสงสัยว่าใช้ทรัพย์สินของนิสสัน มอเตอร์ ที่อยู่ในเนเธอร์แลนด์และประเทศอื่นๆอีก 3 แห่งเพื่อประโยชน์ส่วนตัว โดยทรัพย์สินเหล่านี้รวมถึงที่พักอาศัยหลายแห่งในต่างประเทศแหล่งข่าวระบุว่า อัยการเชื่อว่าทรัพย์สินเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในค่าตอบแทนที่นายโกสน์ ได้รับจากบริษัท แต่กลับไม่ปรากฏอยู่ในรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

          


ทั้งนี้ นายโกสน์ซึ่งเป็นประธานของเรโนลท์ เอสเอ และ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยนั้น ได้ถูกจับกุมเมื่อวานนี้ในข้อหาละเมิดกฎหมายว่าด้วยตราสารทางการเงินและตลาดหลักทรัพย์ของญี่ปุ่น ด้วยการชี้แจงรายได้น้อยกว่าความเป็นจริง โดยเขาได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ในช่วง 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2554 เขามีรายได้ทั้งหมดเพียง 5,000 ล้านเยน (44 ล้านดอลลาร์)

อย่างไรก็ดี แม้ในรายงานประจำปีที่นิสสันยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์จะระบุว่า นายโกสน์ มีรายได้จากบริษัทในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,980 ล้านเยน แต่อัยการเชื่อว่านายโกสน์ได้รับเงินเกือบ 10,000 ล้านเยน อัยการญี่ปุ่นบุกตรวจค้นสำนักงานใหญ่ของนิสสันในเมืองโยโกฮามา ใกล้กรุงโตเกียว เพื่อหาหลักฐานเอาผิดนายโกสน์ วัย 64 ปี ฐานต้องสงสัยละเมิดกฎหมายการเงินญี่ปุ่น แจ้งรายได้ต่ำกว่าความเป็นจริงระหว่างปี 2554 – 2559


          

ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวนับเป็นคดีที่สองที่เกิดขึ้น นับตั้งแต่กฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาฉบับปรับปรุงใหม่ของญี่ปุ่นมีผลบังคับใช้เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

ฮิโรโตะ ซาอิคาวะ ซีอีโอนิสสัน แถลงวันนี้ว่า ผลสอบสวนภายในพบว่า โกสน์ แจ้งรายได้ในรายงานที่ยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์โตเกียวต่ำกว่าเป็นจริง และกระทำการผิดจรรยาบรรณอื่นๆ อย่างร้ายแรง รวมถึงใช้เงินลงทุนบริษัทเพื่อประโยชน์ส่วนตัว และใช้งบรายจ่ายบริษัทอย่างไม่เหมาะสม และเสนอให้ที่ประชุมบอร์ด ปลด โกสน์ ออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบอร์ด และปลดนายเกรก เคลลี ออกจากตำแหน่งรองประธานกรรมการบริษัท ซึ่งถูกจับกุมฐานต้องสงสัยละเมิดกฎหมายเงินเช่นกัน ในวันพฤหัสบดีนี้ ข่าวการจับกุมโกสน์ ผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์นานกว่า 40 ปี ฉุดหุ้นเรโนลต์ในตลาดหุ้นฝรั่งเศส ซึ่งโกสน์นั่งตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารอยู่ด้วย ดิ่งวูบ 13%

 

คาร์ลอส โกสน์ เกิดในบราซิล เริ่มงานที่ มิชลิน ผู้ผลิตยางรถยนต์ฝรั่งเศส ในปี 2522 ก่อนเลื่อนเป็นผู้บริหารบริษัทในอเมริกาเหนือ และย้ายมาที่เรโนลต์ในปี 2539 โกสน์ ถือสัญชาติฝรั่งเศสเป็นผู้กอบกู้และนำพานิสสันมาผงาดอีกครั้ง หลังเข้าไปนั่งบริหารเมื่อ 17 ปีก่อน หลังจากที่ค่ายรถฝรั่งเศสเป็นพันมิตรกับนิสสัน ในปี 2542 โกสน์ เข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ พลิกฟื้นนิสสันหลุดพ้นวิกฤติการเงิน ผ่านการปรับโครงสร้างและลดรายจ่ายอย่างดุดัน จนได้ฉายา “เพชฌฆาตต้นทุน” ภายใต้การกุมบังเหียนของเขา นิสสัน เรโนลต์ และมิตซูบิชิ ได้จับมือเป็นพันธมิตร กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มยานยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก แข่งกับโฟล์กสวาเกน และโตโยต้า ในแง่ของยอดขาย พันธมิตรสามค่าย ที่จ้างงานกว่า 470,000 คน ในเกือบ 200 ประเทศ มียอดขาย 10.6 ล้านคันในปี 2017

ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นซีอีโอนิสสันในปี 2544 และเป็นซีอีโอเรโนลต์อีกตำแหน่งใน 2548 กลายเป็นผู้บริหารคนแรกที่กุมบังเหียนบริษัทใน “ฟอร์จูน โกลบอล 500” สองแห่งในเวลาเดียวกัน หลังจากนิสสันถือหุ้นในมิตซูบิชิ 34% ในปี 59 โกสน์ส่งไม้ต่อให้กับ ซาอิคาวะ ซีอีโอคนปัจจุบัน

นายเอ็มมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เผยฝรั่งเศสระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับอนาคตของบริษัท เรโนลท์ และการเป็นพันธมิตรของเรโนลท์กับนิสสัน ภายหลังจากที่นายคาร์ลอส โกสน์ ประธานบริษัทนิสสัน มอเตอร์ และประธานบริหารของบริษัทเรโนลท์ ได้ถูกจับกุมตัวฐานทำผิดกฎหมายการเงินของญี่ปุ่น

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวในการแถลงข่าวระหว่างการเดินทางเยือนเบลเยียมว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะแสดงความเห็นที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่างๆ แต่ในฐานะที่ฝรั่งเศสเป็นผู้ถือหุ้นในเรโนลท์ เราก็จะระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของเสถียรภาพของการเป็นพันธมิตรภายในกลุ่ม ทั้งนี้ รัฐบาลฝรั่งเศสถือหุ้นในบริษัท เรโนลท์ 15% โดยนายมาครองให้คำมั่นสัญญาว่า จะดูแลพนักงานของบริษัทเรโนลท์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง