พนมเปญ 16 พ.ย.- ศาลคดีเขมรแดงมีคำตัดสินในวันนี้ว่า แกนนำสองคนของเขมรแดงที่ยังมีชีวิตอยู่คือ นายเขียว สัมพัน ประมุขแห่งรัฐและนายนวน เจีย ผู้นำหมายเลขสอง มีความผิดในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เป็นคำตัดสินที่ทุกฝ่ายรอคอมานานตั้งแต่เขมรแดงล่มสลายเมื่อเกือบ 4 ทศวรรษก่อน
ศาลคดีเขมรแดงหรือที่มีชื่อเต็มว่า องค์ชุมนุมชำระคดีวิสามัญแห่งตุลาการกัมพูชามีคำตัดสินว่า นายเขียว สัมพัน วัย 87 ปี มีความผิดข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยเชื้อสายเวียดนาม ส่วนนายนวน เจีย วัย 92 ปี มีความผิดข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ทั้งชนกลุ่มน้อยเชื้อสายเวียดนามและชาวมุสลิมเชื้อสายจาม เนื่องจากเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดร่วมกับนายพล พต ผู้นำหมายเลขหนึ่ง จึงต้องรับผิดชอบในฐานะผู้บงการอาชญากรรมทั้งหมด ทั้งคู่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตโดยให้รวมกับโทษจำคุกตลอดชีวิตที่ถูกตัดสินในปี 2557 ข้อหาใช้ความรุนแรงและบังคับอพยพคนออกจากกรุงพนมเปญในเดือนเมษายน 2518
นายเดวิด เชฟเฟอร์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษเรื่องคดีเขมรแดงของเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2555 จนถึงเดือนก่อนมองว่า คำตัดสินวันนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อกัมพูชา ความยุติธรรมสากล และบันทึกประวัติศาสตร์ ขณะที่นายหยก ชาง หัวหน้าศูนย์เอกสารกัมพูชาชี้ว่า คำตัดสินนี้จะยืนยันความเป็นมนุษย์ของเหยื่อเขมรแดงและยอมรับความทุกข์ทรมานที่เกิดขึ้น เท่ากับปิดฉากช่วงเวลาอันโหดร้ายในหน้าประวัติศาสตร์กัมพูชา
ศาลคดีเขมรแดงเป็นศาลระดับประเทศ ตั้งขึ้นในปี 2549 ได้รับการสนับสนุนจากยูเอ็นเพื่อชำระคดีแกนนำเขมรแดงที่ปกครองประเทศอย่างโหดร้ายระหว่างปี 2518-2522 มีชาวกัมพูชาล้มตายร่วม 2 ล้านคนจากการใช้แรงงานหนัก อดอยาก และถูกฆ่า จนถึงขณะนี้มีแกนนำเขมรแดงถูกตัดสินโทษเพียง 3 คน คนแรกคือนายคัง เค็กเอียวหรือสหายดุช วัย 76 ปี ผู้คุมเรือนจำตวลสเล็งที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตตั้งแต่ปี 2555 อีกสองคนคือนายเขียว สัมพันและนายนวน เจีย ส่วนแกนนำคนอื่นเสียชีวิตหมดแล้วโดยยังไม่ได้รับโทษ ได้แก่ นายพล พต ผู้นำหมายเลขหนึ่ง นายเอียง สารี รัฐมนตรีต่างประเทศ และนางเอียง ธิริธ ภรรยาที่เป็นรัฐมนตรีกิจการสังคม.- สำนักข่าวไทย