นิวยอร์ก 3 พ.ย.- คุณหมอชาวอังกฤษผู้พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่มีใครอ้วนเกินกว่าจะวิ่งได้ จะลงนิวยอร์กมาราธอนที่สหรัฐในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งจะเป็นมาราธอนครั้งที่ 4 ของชีวิต และถือเป็นความฝันที่เป็นจริง
พญ.จูลี เครฟฟิลด์ คุณแม่ลูกหนึ่งวัย 40 ปี เล่าหลังจ็อกกิ่งในสวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์กว่า เริ่มเป็นนักวิ่งตั้งแต่ปี 2553 เป็นการวิ่งระยะสั้นและเข้าเส้นชัยเป็นคนสุดท้าย รู้สึกอายมากเพราะทุกคนแยกย้ายกลับบ้านไปหมดแล้ว ไม่เหลือใครอยู่ที่เส้นชัยเลย คิดว่าตัวเองอาจไม่เหมาะกับโลกของการวิ่ง แต่แล้วก็ตัดสินใจให้กำลังใจตัวเองและสาวไซส์เดียวกันด้วยการเริ่มเขียนบล็อกชื่อว่า Too Fat to Run และลงมาราธอนครั้งแรกในชีวิตที่ลอนดอนมาราธอน ตอนนี้ผ่านฮาล์ฟมาราธอน อัลตร้ามาราธอนและไตรกีฬารวมแล้วราว ๆ 30 ครั้ง
พญ.เครฟฟิลด์บอกว่าไม่รู้ว่าตัวเองหนักเท่าไหร่ แต่ใส่เสื้อไซส์ 18 ของยูเค เท่ากับไซส์ 16 ของยูเอส ตั้งใจจะเข้าเส้นชัยพร้อมกับนักวิ่งจากทั่วโลกกว่า 50,000 คนในนิวยอร์กมาราธอนวันอาทิตย์นี้ นักวิ่งทั่วไปใช้เวลาเฉลี่ย 4 ชั่วโมง 35 นาทีวิ่งผ่านทั้งหมด 5 ย่าน เจฟฟรีย์ คิปแซง คัมวอรอร์ นักวิ่งเคนยาวัย 25 ปี แชมป์ปีที่แล้วใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง 10 นาที 53 วินาที พญ.เครฟฟิลด์คำนวณว่า เธอน่าจะใช้เวลา 6 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 7 ชั่วโมง 30 นาที โดยจะวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และจะเดินในช่วงที่ต้องการพักหายใจ
คุณหมอชาวอังกฤษผู้ลบคำสบประมาทเรื่องคนอ้วนวิ่งไม่ได้เผยว่า คนวิ่งกันด้วยเหตุผลต่าง ๆ ไม่ใช่แค่ต้องการลดน้ำหนักหรือรักษารูปร่าง บางคนวิ่งเพื่อมีเพื่อน สู้กับภาวะซึมเศร้า หรือให้เวลากับตัวเอง เธอเข้าใจความรู้สึกของนักวิ่งที่เป็นผู้หญิงรูปร่างใหญ่ เธอเองก็เคยหงุดหงิดอารมณ์เสียตอนฝึกซ้อม หรือบางครั้งคนก็ชอบตะโกนคำที่คิดเอาเองว่าเป็นการให้กำลังใจ ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่.-สำนักข่าวไทย