ชี้การเมืองสหรัฐทำเป็นมองไม่เห็นภัยฝ่ายขวา

วอชิงตัน 3 พ.ย.- ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงชี้ว่า ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาสหรัฐเกิดเหตุร้ายฝีมือพวกชาตินิยมผิวขาว นาซีใหม่ เหยียดผิวและเกลียดยิวมากขึ้น มีผู้เสียชีวิตมากกว่าเหตุร้ายฝีมือกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)  เพราะการเมืองสหรัฐทำเป็นมองไม่เห็นภัยจากกลุ่มเหล่านี้ 


ดารีล จอห์นสัน อดีตนักวิเคราะห์การก่อการร้ายในประเทศ กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิเผยว่า การเมืองสหรัฐจงใจมองไม่เห็นภัยของกลุ่มฝ่ายขวา เขาเคยเตือนในปี 2552 ว่า กลุ่มขวาสุดโต่งกำลังก่อตัวอีกครั้งหลังเกิดวิกฤตการเงินโลกและสหรัฐได้ประธานาธิบดีเชื้อสายแอฟริกันคนแรกของประเทศคือบารัค โอบามา แต่ไม่มีใครฟังและจากนั้นหน่วยงานของเขาก็ถูกยุบ รัฐบาลโอบามาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เพราะกลัวทำให้กลุ่มต่อต้านยิ่งเกิดปฏิกิริยา ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ไม่อยากแตะต้องเพราะเป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน

ไฮดี ไบริค ของ Southern Poverty Law Center ศูนย์ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มสุดโต่งทั่วสหรัฐชี้ว่า สหรัฐมีทั้งภัยจากกลุ่มเชิดชูผิวตนเองและกลุ่มต่อต้านยิว พอ ๆ กับภัยจากกลุ่มมุสลิมสุดโต่ง จึงต้องจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสม ไม่เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป แต่เนื่องจากรัฐบาลมัดมือตัวเองเพราะห่วงถูกตำหนิว่าสอดแนมประชาชนทางออนไลน์ จึงไม่เฝ้าจับตากลุ่มขวาจัดมากนัก ต่างจากกลุ่มมุสลิมสุดโต่งที่ทำได้อย่างชอบธรรมเพราะขึ้นบัญชีไว้แล้วว่าเป็นพวกก่อการร้าย  


คนร้ายกราดยิง 11 ศพในโบสถ์ยิวที่เมืองพิตต์สเบิร์กแสดงความเกลียดชังยิวอย่างเปิดเผยในโลกโซเชียล คนร้ายส่งพัสดุระเบิดป่วนสหรัฐแสดงความเกลียดชังผู้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อย่างชัดเจน ชาวอเมริกันพากันสงสัยว่า เหตุใดคนเหล่านี้จึงก่อเหตุได้โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ระแคะระคายมาก่อน ภัยจากฝ่ายขวาในสหรัฐเริ่มปรากฏชัดเจนเมื่อชายผิวขาวสุดโต่งกลุ่มหนึ่งวางระเบิดที่ทำการรัฐบาลในเมืองโอคลาโฮมาซิตี รัฐโอคลาโฮมาในปี 2528 มีผู้เสียชีวิตมากถึง 168 คน แต่เหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 ฝีมือของกลุ่มอัลกออิดะห์ทำให้สหรัฐมุ่งกวาดล้างกลุ่มมุสลิมสุดโต่งเป็นหลัก 

ข้อมูลของกลุ่มนิวอเมริกาชี้ว่า ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเหตุฆาตกรรมในสหรัฐที่เป็นฝีมือกลุ่มสุดโต่งด้านอุดมการณ์ คนร้ายกว่าร้อยละ 70 เป็นพวกขวาจัด เฉพาะปีที่แล้วเหตุฆาตกรรมแบบนี้ 34 ครั้งเป็นฝีมือกลุ่มขวาจัดถึง 20 ครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก