ปักกิ่ง 15 ธ.ค. – กระแสต่อต้านการสูบบุหรี่ปะทุขึ้นในจีน โดยมีการจัดตั้งกลุ่มอาสาออกไล่ล่าคนแอบสูบบุหรี่ภายในอาคารสำนักงานในกรุงปักกิ่ง ขณะที่ทางการเตรียมออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะทั่วประเทศ
เครือข่ายอาสาต่อต้านการสูบบุหรี่เกิดจากการรวมกันของกลุ่มบุคคลที่เข้ารับการฝึกอบรมจากสมาคมควบคุมยาสูบแห่งกรุงปักกิ่งซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากทางรัฐบาลจีน สมาชิกกลุ่มอาสาเหล่านี้ซึ่งล้วนเป็นผู้ที่ร่วมปฏิญานตนว่าไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนจะออกเดินทางไล่ล่ากลุ่มบุคคลที่ลักลอบสูบบุหรี่ภายในอาคารสำนักงานต่างๆตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียน โดยผู้ที่ถูกจับได้จะถูกสั่งสอนในเรื่องมารยาทการสูบบุหรี่ หรือถึงขั้นได้รับใบสั่งและเสียค่าปรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ที่ถูกจับได้ว่าสูบบุหรี่ภายในร้านอาหาร อาคารสำนักงาน รถโดยสารและรถไฟสาธารณะจะถูกปรับเป็นจำนวนเงินสูงสุดที่ 200 หยวน (ราว 1,030 บาท) ตามกฎหมายจีน
ทั้งนี้ บุหรี่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของจีนและอุตสาหกรรมยาสูบสามารถสร้างรายได้ด้านภาษีให้กับประเทศได้ถึง 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 5.36 ล้านล้านบาท) เมื่อปีที่แล้ว ธนาคารโลกระบุว่า จีนมีจำนวนผู้สูบบุหรี่กว่า 300 ล้านคน โดยเกือบครึ่งของประชากรวัยผู้ใหญ่สูบบุหรี่เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากบุหรี่ก็มหาศาลเช่นกัน โดยในแต่ละปี มีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ราว 1 ล้านคน และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นอีกสามเท่าภายในปี 2593 หากไม่มีมาตรการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ผู้แทนท้องถิ่นจากองค์การอนามัยโลกยังกล่าวว่า การสูบบุหรี่ยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะภายในห้องแคบๆตามร้านอาหารที่มีการสูบบุหรี่จะมีคุณภาพอากาศแย่กว่าปัญหามลภาวะทางอากาศภายนอกในกรุงปักกิ่งเสียอีก
ด้านรัฐบาลจีนเตรียมที่จะออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะทั่วประเทศ โดยเจ้าหน้าที่กล่าวต่อที่ประชุมด้านสุขภาพที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนที่แล้วว่า จะมีการประกาศบังคับใช้ภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวต่อต้านยาสูบแสดงความกังวลว่ากฎหมายแห่งชาติฉบับดังกล่าวอาจสร้างผลกระทบด้านลบมากกว่าด้านบวก เพราะไม่มีการเปิดรับการแสดงความคิดเห็นจากสาธารณชน อีกทั้ง อาจมีข้อยกเว้นบางอย่าง อาทิ อนุญาตให้จัดห้องสูบบุหรี่ภายในสนามบินและร้านอาหารได้ หรืออนุญาตให้สูบบุหรี่ภายในห้องส่วนตัวในสำนักงานได้.-สำนักข่าวไทย