ซิดนีย์ 27 ก.ย.- นายจัสติน มิลน์ ประธานบรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลีย (เอบีซี) แจ้งลาออกจากตำแหน่งแล้วในวันนี้ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเสนอให้ไล่ออกผู้สื่อข่าวอาวุโสคนหนึ่งตามแรงกดดันของรัฐบาล
นายมิลน์แจ้งต่อเอบีซีว่า เขาตั้งใจดูแลผลประโยชน์ของบริษัท แต่หากถูกกระหน่ำกล่าวหาแบบนี้ย่อมไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน จึงอยากจะไขก๊อกเพื่อลดแรงกดดันทั้งหมด ซึ่งหมายถึงเรื่องที่ถูกพนักงาน สหภาพแรงงานและสมาชิกสภารุมตำหนิ หลังจากบริษัทไล่ออกนางมิเชล กัทธรี กรรมการผู้จัดการวัย 53 ปีที่อยู่ในตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2558 เมื่อไม่กี่วันก่อน ด้วยเหตุผลเรื่องวิธีการทำงาน หนังสือพิมพ์ซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ได้เผยแพร่อีเมลของนายมิลน์ในวันนี้มีเนื้อหาว่า เงินสนับสนุนที่เอบีซีได้รับจากรัฐอาจมีปัญหาหากไม่ไล่ออกนางกัทธรีที่เขียนข่าววิจารณ์นโยบายภาษีนิติบุคคลของรัฐบาล นางกัทธรีทำให้เอบีซีมัวหมอง วิธีง่าย ๆ ก็คือ กำจัดเธอออกไปเสีย
นายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสันที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ปฏิเสธเสียงครหาเรื่องอดีตนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลพยายามใช้อิทธิพลแทรกแซงเอบีซีว่า หากใครทำผิดก็สมควรที่ประชาชนจะเรียกร้องให้ออก แต่เรื่องที่อ้างว่ารัฐบาลมีรายชื่อในมือและบอกเอบีซีว่าควรให้ใครอยู่ใครไปเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก อย่างไรก็ดี รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลสายอนุรักษ์นิยมของออสเตรเลียมีปัญหาอยู่เสมอกับเอบีซีที่รัฐบาลมองว่ามีแนวคิดฝ่ายซ้าย ความสัมพันธ์ยิ่งแย่ลงเมื่อรัฐบาลตัดงบสนับสนุนเอบีซีในปีนี้.-สำนักข่าวไทย