ย่างกุ้ง 24 ก.ย.- พล.อ.อาวุโส มินอ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมากล่าวว่า สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ไม่มีสิทธิแทรกแซงอธิปไตยของเมียนมา หลังจากคณะสอบสวนยูเอ็นเรียกร้องให้ดำเนินคดีเขาและนายทหารระดับสูงข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา
หนังสือพิมพ์เมียวดีของกองทัพเมียนมารายงานว่า พล.อ.มินปราศรัยต่อกองทัพเมื่อวานนี้ว่า ไม่มีประเทศใด องค์กรใดหรือกลุ่มใดมีสิทธิแทรกแซงและตัดสินใจเหนืออธิปไตยของประเทศอื่น การพูดเพื่อแทรกแซงเรื่องภายในทำให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมกับประกาศชัดเจนว่ากองทัพเมียนมาไม่คิดจะถอยห่างออกจากการเมืองตามที่ยูเอ็นเรียกร้อง แต่ละประเทศทั่วโลกล้วนปกครองระบอบประชาธิปไตยในแบบที่เหมาะสมกับประเทศตนเอง และเมียนมาจำเป็นต้องยุติการสู้รบเพื่อให้สามารถมุ่งสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคการเมืองได้อย่างแท้จริง ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมาย้ำด้วยว่า ชนกลุ่มน้อยโรฮิงญาเป็นคนนอก เป็นชาวเบงกาลี กฎหมายเมียนมาที่ไม่รับรองชนกลุ่มนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป
คณะทำงานค้นหาความจริงของยูเอ็นออกรายงานหนา 444 หน้า ที่ใช้เวลารวบรวมนาน 18 เดือน แจกแจงรายละเอียดข้อกล่าวหาเรื่องทหารเมียนมากระทำการโหดร้ายกับชาวโรฮิงญาที่หนีการกวาดล้างของกองทัพตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีก่อน และเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นฟ้องนายทหารระดับสูงของเมียนมาต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ก่อนหน้านี้ไอซีซีเองมีคำชี้ขาดว่า มีอำนาจตุลาการที่จะเปิดการไต่สวนเบื้องต้นเรื่องทหารเมียนมากดขี่ชาวโรฮิงญา แม้เมียนมาไม่ได้ลงนามเป็นภาคีไอซีซีก็ตาม เดือนที่แล้วเฟซบุ๊กได้ปิดบัญชีของ พล.อ.อาวุโสมิน และนายทหารเมียนมาหลายนายโดยกล่าวหาว่า ใช้เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือสร้างความแตกแยกในประเทศ รัฐบาลนางออง ซาน ซู จีโต้ว่า รายงานยูเอ็นฟังความข้างเดียว มีข้อบกพร่อง และเมียนมาไม่ยอมรับอำนาจของไอซีซี.- สำนักข่าวไทย