ตำรวจซีแอตเทิลยังไม่ระบุสาเหตุการเสียชีวิต 2 สาวไทย

สหรัฐ 6 ก.ย.-เหตุการณ์ “น้องแอ๋ม-น้องอร” 2 สาวไทยเสียชีวิตในสหรัฐ ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ค่อนข้างน่าตกใจ เนื่องจาก 2 นักศึกษาไทยที่เสียชีวิต พักอาศัยอยู่ในย่านที่ค่อนข้างปลอดภัย ใกล้กับมหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองซีแอตเทิล ขณะที่ตำรวจซีแอตเทิลยังไม่ยืนยันถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด


ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของตำรวจซีแอตเทิล หรือ Seattle Police Department ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของ 2 หญิงสาวชาวไทย โดยจากข้อมูลที่พบในพื้นที่ระบุว่า ไม่พบผู้ต้องสงสัยที่จะเข้าไปก่อเหตุอย่างชัดเจน แต่ก็ยังไม่ได้ยืนยันถึงการเสียชีวิตของทั้ง 2 ศพ ว่าเกิดจากสาเหตุใด


ทั้งนี้ รายงานอย่างเป็นทางการจากตำรวจซีแอตเทิล ระบุเมื่อวันที่ 4 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งก็คือเมื่อคืนวันที่ 5 กันยายน ตามเวลาในไทย ว่าเมื่อเช้าวังอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น มีผู้พบศพเป็นหญิงสาว 2 ศพ ภายในอพาร์ตเมนท์แห่งหนึ่งในเขตมหาวิทยาลัย หลังจากเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. (เวลาท้องถิ่น) ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้จัดการอาคารให้ตรวจสอบภายในห้องพักหนึ่งในอพาร์ตเมนท์ “มอลลอย” ตั้งอยู่เลขที่ 4300 ถนนสาย 15 ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน โดยแจ้งว่ามีการพบผู้หญิงได้รับบาดเจ็บอย่างหนักภายในอาคาร เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปจึงพบผู้หญิง 2 คน แต่ทั้งคู่เสียชีวิตไปแล้ว


ขณะที่เจ้าหน้าที่สืบสวนเหตุฆาตกรรมเร่งสอบสวนเต็มที่เพื่อหาข้อเท็จจริงของเรื่องดังกล่าว แต่ในที่เกิดเหตุไม่พบผู้ต้องสงสัย หรือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เพิ่มเติมที่แน่ชัด โดยหากตำรวจซีแอตเทิลมีข้อมูลเพิ่มเติม จะแจ้งให้ทราบผ่านเว็บไซต์

ด้านเฟซบุ๊กสมาคมคนไทยในรัฐวอชิงตันระบุว่า ประสานงานไปยังสถานกงสุลใหญ่ไทยที่ลอสแองเจลิส ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างชันสูตรศพ เพื่อเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการ โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ แต่หากได้ข้อมูลเพิ่มเติม จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ ข่าวการเสียชีวิตของ 2 นักศึกษาไทยในครั้งนี้มีรายงานข่าวที่สับสนว่า ทั้ง 2 ศพเสียชีวิตเพราะถูกแทง แต่ยังหาตัวฆาตกรไม่พบ รวมถึงบางรายงานข่าวระบุว่าอาจเป็นการฆาตกรรม และมีการฆ่าตัวตายตาม แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแถลงใดๆ อย่างเป็นทางการของเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย