วอชิงตัน 30 ส.ค.- นางโรเบอร์ตา แมคเคน มารดาวัย 106 ปี ของ สว.จอห์น แมนเคนจะไปร่วมพิธีศพบุตรชายที่กรุงวอชิงตันและรัฐแมริแลนด์ในสัปดาห์นี้ หลังจากบุตรชายถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคมะเร็งสมองขณะอายุได้ 81 ปี
นางแมคเคนเรียก สว.แมคเคน ซึ่งเป็นลูกคนกลางว่าจอห์นนี เธอเคยบอกว่าแมคเคนอยากมีอายุยืนยาวเหมือนเธอ แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอกลับต้องเป็นฝ่ายไปร่วมพิธีศพของลูกชาย สว.แมคเคนกล่าวถึงมารดาในหนังสือของเขาว่า ได้รับการเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้หญิงแกร่ง มีความมุ่งมั่น สนุกสนานกับการใช้ชีวิต ใช้ทุกโอกาสอย่างเต็มที่ ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสง่างามด้วยอารมณ์ขัน มีความรับผิดชอบและเสียสละ ส่วนจอห์น ซิดนีย์ แมคเคน จูเนียร์ บิดาของเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบผจญภัย และรักการเป็นทหารรับใช้ชาติ คุณสมบัติเหล่านี้เป็นดีเอ็นเอที่สืบทอดกันในครอบครัวของเขา
แมคเคนเข้าโรงเรียนนายเรือที่รัฐแมริแลนด์ตามรอยบิดาและปู่ นางแมคเคนกล่าวระหว่างช่วยบุตรชายหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2551 ว่า สำหรับเธอแล้วกองทัพเรือสหรัฐคือตัวอย่างของสิ่งดี ๆ ทุกอย่างของประเทศ ช่วงที่แมคเคนถูกยิงเครื่องบินตกในเวียดนามเหนือและจับเป็นเชลยสงครามในปี 2510 เธอและสามีอยู่ที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ เธอรับโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขณะที่สามีกำลังอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่สถานทูตอิหร่าน ทั้งที่ปกติแล้วเธอจะไม่รับโทรศัพท์หากสามีอยู่ด้วย เพื่อนคนหนึ่งโทรมาแจ้งข่าวร้ายว่าเครื่องบินกองทัพเรือสหรัฐ 2 ลำถูกยิงตกที่เวียดนามและไม่มีนักบินดีดตัวออกมา เธอและสามีตัดสินใจไปร่วมงานเลี้ยงตามกำหนดและไม่ปริปากพูดอะไร จนกระทั่งทราบในภายหลังว่าบุตรชายยังมีชีวิตอยู่และถูกจับเป็นเชลยสงคราม เธอถือว่าเป็นข่าวดีที่สุดในชีวิต
นางแมคเคนมักขับรถท่องเที่ยวทั่วโลกกับฝาแฝดของเธอคือ โรวีนา ไรท์ ซึ่งถึงแก่กรรมเมื่อปี 2554 มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ไปเที่ยวยุโรป บริษัทเช่ารถไม่ยอมให้เธอเช่าเพราะเห็นว่าอายุมากแล้ว เธอจึงซื้อรถมาขับเสียเลย สว.แมคเคนเล่าว่า มารดาเคยโทรศัพท์มาว่ากำลังขับรถเที่ยวข้ามประเทศด้วยตัวเองทั้งที่ตอนนั้นอายุ 90 กว่าแล้ว สุขภาพของเธอตอนนี้ยังคงแข็งแรงแต่เคลื่อนไหวช้าลงเพราะเคยมีอาการหลอดเลือดสมอง.- สำนักข่าวไทย