จาการ์ตา 19 ก.ย. – ผลการศึกษาของสหรัฐ ระบุว่า ปัญหามลพิษจากหมอกควันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้มีประชากรมากกว่า 100,000 คน เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เมื่อปีที่ผ่านมา
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐ ประเมินว่า มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากกว่า 90,000 คนในอินโดนีเซีย และอีกหลายพันคนในประเทศใกล้เคียงอย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย จากปัญหามลพิษจากหมอกควันปกคลุมทั่วภูมิภาค โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้รับการประเมินขึ้นมาใหม่จากการวิเคราะห์เชิงซ้อนนั้น สูงกว่าตัวเลขเดิมของทางการที่รายงานผู้เสียชีวิตในอินโดนีเซียเพียงแค่ 19 ราย
ผลการศึกษาครั้งใหม่ที่จะถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร Environmental Research Letters ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลจากดาวเทียม พร้อมแบบจำลองผลกระทบต่อสุขภาพจากหมอกควัน และข้อมูลจากสถานีตรวจวัดมลภาวะ เผยว่า ประชากร 100,300 คน เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากปัญหาหมอกควันใน 3 ประเทศ เมื่อปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 91,600 คนในอินโดนีเซีย 6,500 คนในมาเลเซีย และ 2,200 คนในสิงคโปร์
นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมกรีนพีซอินโดนีเซีย กล่าวว่า หากปัญหาหมอกควันยังดำเนินต่อไป ก็จะยังทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในแต่ละปี และการเพิกเฉยต่อต้นเหตุการเสียชีวิตของผู้คนดังกล่าว นับเป็นการก่ออาชญากรรมอย่างหนึ่ง ด้านรัฐบาลอินโดนีเซียยืนกรานว่า รัฐบาลกำลังพยายามลดปัญหาหมอกควัน โดยการสั่งห้ามขยายพื้นที่ปลูกน้ำมันปาล์ม และก่อตั้งสำนักงานฟื้นฟูพื้นที่ป่าพรุ.- สำนักข่าวไทย