วอชิงตัน 16 ก.ค.- ผลสำรวจที่เผยแพร่วันนี้พบว่า ผู้ผลิตสหรัฐบางรายกำลังชะลอการลงทุนและขึ้นราคา เพราะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำสงครามการค้ากับคู่ค้าใหญ่หลายราย อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตส่วนใหญ่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ
สมาคมแห่งชาติเพื่อเศรษฐศาสตร์ธุรกิจเผยผลสำรวจรายไตรมาสกับนักเศรษฐศาสตร์ 98 คนในบริษัทเอกชนและสมาคมการค้าว่า ผู้ตอบคาดการณ์เหมือนกันว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเติบโตต่อไปในปีหน้า โดยน่าจะเกินร้อยละ 2 หากคำรวณอัตราเงินเฟ้อแล้ว ตลาดแรงงานยังคงตึงตัวจากการขาดแคลนแรงงานมีทักษะ ทำให้บริษัทต้องขึ้นค่าจ้าง เพิ่มการฝึกอบรม และพิจารณาเรื่องเพิ่มการใช้ระบบอัตโนมัติ ผู้ตอบแบบสำรวจพบสัญญาณของการขึ้นราคา สะท้อนว่าอัตราเงินเฟ้อและภาษีนำเข้าใหม่ของรัฐบาลเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจ ดัชนีชี้วัดค่าบริการที่ผู้ประกอบการคิดจากลูกค้าเพิ่มขึ้น 14 จุด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 12 เดือน เช่นเดียวกับค่าวัสดุที่เพิ่มขึ้น 15 จุด สูงที่สุดในรอบ 7 ปี อย่างไรก็ดี ผู้ตอบร้อยละ 65 เผยว่า ความกังวลทางการค้าไม่ทำให้บรัทปรับเปลี่ยนแผนการลงทุน การจ้างงาน หรือการคิดราคา ขณะที่ร้อยละ 26 กำลังชะลอการลงทุน และร้อยละ 16 ได้ปรับขึ้นราคาแล้ว
นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศจะเก็บภาษีร้อยละ 10 กับสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.66 ล้านล้านบาท) หลังจากที่ได้เริ่มเก็บภาษีร้อยละ 25 กับสินค้าจีนมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.13 ล้านล้านบาท) ตั้งแต่ต้นเดือน จะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น จากเดิมที่ทยอยขึ้นอยู่แล้วเพราะเศรษฐกิจฟื้นตัวตลอดทศวรรษที่ผ่านมา.- สำนักข่าวไทย