มานากัว 16 ก.ค.- กลุ่มสิทธิอ้างว่า ตำรวจและทหารบ้านที่ภักดีต่อประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เตกาของนิการากัวสังหารประชาชนอีกอย่างน้อย 10 คนเมื่อวานนี้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไม่สงบที่ดำเนินมาตั้งแต่กลางเดือนเมษายนเพิ่มเป็นกว่า 300 คนแล้ว
สมาคมสิทธิมนุษยชนนิการากัวเผยกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า กองกำลังรัฐบาลบุกเข้าชุมชนแห่งหนึ่งใกล้เมืองมาซายา ห่างจากกรุงมานากัวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 25 กิโลเมตร สังหารประชาชนไปร่วม 10 คน ส่วนเมื่อวันเสาร์บาทหลวงได้ช่วยเหลือนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่หลบอยู่ในโบสถ์แห่งหนึ่งตลอดทั้งคืนเพราะถูกกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลพากันระดมยิงปืนเข้าใส่ มีนักศึกษาเสียชีวิตในโบสถ์หนึ่งคน
นิการากัว ประเทศใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง ตกอยู่ในภาวะไม่สงบตั้งแต่ประชาชนเริ่มการประชุมในวันที่ 18 เมษายน เรียกร้องให้ประธานาธิบดีออร์เตกาวัย 72 ปี ลาออก หลังจากเขาเสนอลดสิทธิประโยชน์บำนาญเพื่อลดแรงกดดันด้านงบประมาณ เขายกเลิกข้อเสนอดังกล่าวแต่การชุมนุมยังคงต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้ ถือเป็นเหตุนองเลือดที่สุดตั้งแต่สงครามการเมืองในประเทศยุติลงในปี 2533 ถนนหนทางทั่วประเทศเงียบเหงาเมื่อวันศุกร์เพราะร้านค้าพากันปิดตามที่กลุ่มภาคประชาสังคมเรียกร้อง เพื่อกดดันให้ประธานาธิบดีลาออกและจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีก่อนกำหนด จากเดิมที่จะต้องมีขึ้นในปี 2564 เพราะเพิ่งมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559.-สำนักข่าวไทย