นิวเดลี 20 มิ.ย.- นักวิเคราะห์ชี้ว่า สายการบินแอร์อินเดียจะต้องเร่งหาเงินอัดฉีดก้อนใหม่ ลดค่าใช้จ่าย และขายทรัพย์สินที่ไม่สำคัญจึงจะอยู่รอด หลังจากรัฐบาลส่งสัญญาณว่าจะพับแผนการจำหน่ายสายการบินของรัฐแห่งนี้
รัฐมนตรีการบินพลเรือนอินเดียกล่าวเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลจะทบทวนแผนการแปรรูปแอร์อินเดียเป็นของเอกชนในภายหลัง เพราะการขายในช่วงที่ราคาน้ำมันแพงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เดือนที่แล้วรัฐบาลได้เสนอขายหุ้นร้อยละ 76 ที่ถืออยู่ในแอร์อินเดียแต่ไม่มีนักลงทุนสนใจ นักวิเคราะห์ชี้ว่า การพับแผนจำหน่ายแอร์อินเดียจะยิ่งทำให้ฐานะการเงินของสายการบินแห่งนี้ย่ำแย่และกระทบความพยายามลดภาระหนี้สินของรัฐบาล อย่างไรก็ดี สิ่งที่ควรทำในขณะนี้คือ มุ่งปรับปรุงการบริหารงานไม่ให้ขาดทุนหรือเสียส่วนแบ่งตลาดไปมากกว่านี้และลดภาระด้วยการขายทรัพย์สินที่ไม่สำคัญ เพราะคาดว่าการขายแอร์อินเดียคงไม่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าที่จะต้องมีขึ้นในเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมปีหน้า
แอร์อินเดียมีทรัพย์สินทั้งหมด 4,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 150,920 ล้านบาท) และมีอสังหาริมทรัพย์มูลค่าราว 1,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 40,690 ล้านบาท) มีบริษัทในเครือทั้งหมด 6 แห่ง ครึ่งหนึ่งดำเนินธุรกิจขาดทุน นักวิเคราะห์ระบุว่า แอร์อินเดียเป็นตัวอย่างคลาสสิคของธุรกิจที่บริษัทในเครือมีค่ามากกว่าบริษัทแม่ เจ้าหนี้จึงอยากได้ธุรกิจในเครือมากกว่า แอร์อินเดียเผยในเดือนนี้ว่า ต้องการเงินกู้ระยะสั้น 148 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4,850 ล้านบาท) เพื่อให้พนักงาน 27,000 คนสามารถทำงานต่อไปได้ ขณะที่บริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมการบินอินเดียประเมินว่า แอร์อินเดียจะขาดทุน 1,500-2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 49,220-65,640 ล้านบาท) ในช่วง 2 ปีข้างหน้า จึงไม่ควรเปลืองภาษีประชาชนไปอุ้มธุรกิจที่ภาคเอกชนบริหารได้ดีกว่า.- สำนักข่าวไทย