ซิดนีย์ 14 มิ.ย.- สายการบินแควนตัสของออสเตรเลียแจ้งว่า เครื่องบินซูเปอร์จัมโบ A380 ลำหนึ่งของสายการบินเจอกระแสลมวนขณะบินตาม A380 อีกลำเป็นระยะห่าง 20 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 37 กิโลเมตร ไม่มีผู้โดยสารบาดเจ็บและเครื่องบินไม่เสียหาย
กระแสลมวนเป็นสภาวะความปั่นป่วนในอากาศที่ก่อตัวขึ้นด้านหลังเครื่องบินเมื่อบินผ่านอากาศ มักเกิดขึ้นกับเครื่องบินลำเล็กที่บินตามหลังเครื่องบินลำใหญ่ แต่การบินตามกันระหว่างเครื่องบินใหญ่อย่าง A380 แทบไม่เคยเกิดสภาวะนี้ สำนักงานการบินแห่งชาติสหรัฐ (เอฟเอเอ) กำหนดให้เครื่องบินทุกลำต้องบินห่างกันอย่างน้อย 5 ไมล์ทะเล หรือราว 9.26 กิโลเมตร ส่วนในการขึ้นลงเครื่องบิน เอฟเอเอกำหนดให้โบอิง 747 ต้องอยู่ห่างจาก A380 เป็นระยะ 4.5 ไมล์ทะเลหรือราว 8.34 กิโลเมตร เครื่องบินเล็กต้องห่าง 8 ไมล์ทะเลหรือราว 14.82 กิโลเมตร ขณะที่ระหว่าง A380 ด้วยกันให้มีระยะห่างขั้นต่ำเท่านั้น
แควนตัสแถลงว่า เครื่องบิน A380 ที่เจอกระแสลมวนเป็นเที่ยวบินแควนตัส 94 จากนครลอสแอนเจลิส (แอลเอ) ของสหรัฐไปนครเมลเบิร์นของออสเตรเลียที่บินตามเที่ยวบินแควนตัส 12 จากแอลเอไปนครซิดนีย์ ทำให้เครื่องบินเขย่าเป็นเวลาสั้น ๆ นักบินต้องนำเครื่องบินไต่ระดับสูงขึ้นไปประมาณ 100 ฟุตแล้วจึงลดระดับลงมาเพื่อไม่ให้เจอกระแสลมวนอีก ผู้ประกาศทางโทรทัศน์ออสเตรเลียคนหนึ่งที่อยู่บนเครื่องบินลำนั้นเล่าว่า เครื่องเขย่าอยู่ประมาณ 10 วินาที มีความรู้สึกหวิวเหมือนตอนรถไฟเหาะแล่นลงจากจุดสูงสุด
เครื่องบินธุรกิจขนาดเล็กลำหนึ่งเคยเจอกระแสลมวนเมื่อบินตาม A380 ของสายการบินเอมิเรตส์เมื่อเดือนมกราคมปีก่อน ทำให้เครื่องบินเล็กเสียการควบคุม ร่วงจากระดับการบินไปเกือบ 9,000 ฟุต ก่อนที่นักบินจะสามารถควบคุมเครื่องได้อย่างปลอดภัย.- สำนักข่าวไทย