ซิดนีย์ 1 มิ.ย.- ออสเตรเลียเตรียมตั้งข้อหาแก๊งอาชญากรกับเอเอ็นแซด ธนาคารใหญ่อันดับสามของประเทศและผู้จัดจำหน่ายหุ้นสองรายคือ ดอยซ์แบงก์ของเยอรมนีและซิตีกรุ๊ปของสหรัฐกรณีจำหน่ายหุ้นเมื่อปี 2558 เป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยมีมาก่อนและอาจกระทบต่อตลาดทุนโลก
ประธานคณะกรรมการคุ้มครองการแข่งขันและผู้บริโภคออสเตรเลีย (เอซีซีซี) แถลงว่า อัยการรัฐบาลกลางจะตั้งข้อหาแก๊งอาชญากรกับออสเตรเลียแอนด์นิวซีแลนด์แบงกิงกรุ๊ป (เอเอ็นแซด) เหรัญญิกของธนาคาร วาณิชธนกิจสองแห่ง และบุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่ออีกจำนวนหนึ่งเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นของเอเอ็นแซดเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 เป็นข้อหาที่มีโทษปรับสถานหนักและจำคุก 10 ปี เอเอ็นแซด ดอยซ์แบงก์และซิตีกรุ๊ปปฏิเสธว่าไม่ได้ทำผิดและจะต่อสู้ข้อกล่าวหา ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ออสเตรเลียซึ่งมีกฎหมายต่อต้านแก๊งอาชญากรเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ไม่เคยตั้งข้อหาอาญากับสถาบันการเงินมาก่อน การตัดสินใจครั้งนี้แสดงว่ามีความมั่นใจในคดีสูงมาก เพราะการฟ้องร้องคดีอาญายากเย็นกว่าการฟ้องร้องคดีแพ่ง
ทางการออสเตรเลียกำหนดให้ธนาคารในประเทศต้องเพิ่มเงินกองทุนตามระเบียบใหม่เมื่อปี 2558 เอเอ็นแซดและคู่แข่งอย่างคอมมอนเวลธ์แบงก์ออฟออสเตรเลียจึงเร่งออกหุ้นเพิ่มทุน เอเอ็นแซดชี้แจงในวันนี้ว่า คณะผู้จัดจำหน่ายไม่ได้แจ้งว่าได้เก็บหุ้นไว้ 25.5 ล้านหุ้นจากที่นำออกจำหน่ายทั้งหมด 80.8 ล้านหุ้น หุ้นที่ออกใหม่ส่งผลให้ราคาหุ้นของเอเอ็นแซดร่วงลงร้อยละ 7.5 ในวันที่เอเอ็นแซดประกาศว่าเพิ่มทุนเสร็จสิ้นแล้ว และใช้เวลานานกว่าปีกว่าราคาหุ้นจะกลับไปยังราคาก่อนเพิ่มทุน ขณะที่ซิตีกรุ๊ปชี้แจงว่า ถูกตั้งข้อหาแก๊งอาชญากรเพราะตกลงกับดอยซ์แบงก์เรื่องจำหน่ายหุ้นของเอเอ็นแซด ทั้งที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในออสเตรเลียมาหลายทศวรรษแล้ว เนื่องจากผู้จัดจำหน่ายจะต้องรับความเสี่ยงและรับประกันการเพิ่มทุน.- สำนักข่าวไทย