สหรัฐ 25 พ.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เขียนจดหมายถึงผู้นำเกาหลีเหนือบอกเลิกการประชุมสุดยอดที่สิงคโปร์ อ้างเกาหลีเหนือเอาแต่โกรธเกรี้ยวและแสดงความเป็นปรปักษ์อย่างเปิดเผย
แสงแห่งสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี เริ่มริบหรี่ลงอีกครั้งหลังเพิ่งโชนแสงช่วงปลายเดือนเมษายน เมื่อนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือพบหารือครั้งประวัติศาสตร์กับนายมุน แจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จนนำไปสู่แผนการประชุมสุดยอดหรือซัมมิตที่ทั่วโลกตั้งตารอคอยระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กับนายคิม ที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ แต่สุดท้าย เป็นนายทรัมป์ ที่เขียนจดหมายบอกยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม อ้างเหตุความเกรี้ยวกราดและแสดงออกถึงความเป็นปรปักษ์อย่างชัดเจน ในแถลงการณ์ของเกาหลีเหนือช่วงหลังๆ แต่หากเปลี่ยนใจ โปรดอย่ารีรอที่จะโทรศัพท์หรือเขียนจดหมายมาถึงตน
ทรัมป์ แถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเน้นย้ำว่ายังเปิดกว้างสำหรับการเจรจา แต่ถ้าเกาหลีเหนือกระทำการใดๆ ที่ไม่ไตร่ตรอง สหรัฐที่มีกองทัพทรงอำนาจมากที่สุดในโลกก็เตรียมพร้อมรบถ้าจำเป็น โดยมีเกาหลีใต้และญี่ปุ่นพร้อมรับผิดชอบเรื่องงบการเงิน ถ้าเกิดเกาหลีเหนือบีบให้ต้องทำ สหรัฐจะกดดันด้วยการคว่ำบาตรขั้นสูงสุดต่อเกาหลีเหนือต่อไปเพื่อให้ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ หวังว่านายคิมจะทำสิ่งที่ถูกต้องไม่ใช่แค่เพื่อตัวเองแต่เพื่อประชาชนคนของเขาที่กำลังทนทุกข์อย่างใหญ่หลวงโดยไม่จำเป็น ก่อนหน้านี้ สหรัฐและเกาหลีเหนือ ออกมาตอบโต้กันอย่างเผ็ดร้อนหลายครั้ง
รวมทั้งครั้งล่าสุดที่นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ พูดเตือนเกาหลีเหนืออย่าคิดว่าจะชักจูงนายทรัมป์ให้เล่นตามเกมตัวเองได้ ถ้าไม่ยอมเจรจายกเลิกอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐอาจกลับไปใช้ ลิเบียโมเดล หรือการปลดอาวุธนิวเคลียร์ของลิเบียเมื่อปี 2547 ซึ่งสุดท้าย พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียถูกกลุ่มบกฎที่โลกตะวันตกสนับสนุนโค่นอำนาจและสังหาร
ด้านทำเนียบขาว แถลงว่า ท่าทีแข็งกร้าวที่เกาหลีเหนือตอบโต้นายเพนซ์ เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่สหรัฐยกเลิกการประชุมสุดยอด ส่วนปฏิกิริยาจากนานาชาติ นายอันโตนีโอ กูเตียร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงว่า รู้สึกเป็นห่วงอย่างยิ่ง ขอทุกฝ่ายเดินหน้าการเจรจาหาช่องทางปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีโดยสันติและตรวจสอบได้ ส่วนนายมุน แจอิน เผยรู้สึกเสียใจมากที่เวทีซัมมิตถูกล้มโต๊ะ และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยเจรจากันโดยตรง
การประกาศยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิมของทรัมป์ มีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังเกาหลีเหนือทำลายฐานทดสอบนิวเคลียร์ปุงกเย-รี ต่อหน้ากลุ่มผู้สื่อข่าวนานาชาติที่เกาลีเหนือคัดเลือกไปสังเกตการณ์ และว่าเป็นข้อพิสูจน์ถึงคำมั่นสัญญาเพื่อยุติการทดสอบนิวเคลียร์.-สำนักข่าวไทย