อูเทร็คท์ 24 พ.ค.- คณะสอบสวนเหตุเครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH17 ตกทางตะวันออกของยูเครนปี 2557 สรุปเป็นครั้งแรกในวันนี้ว่า ขีปนาวุธที่ยิงเครื่องบินลำนี้ตกมาจากกองพันในกองทัพรัสเซีย
หัวหน้าคณะสอบสวนร่วมแถลงที่เนเธอร์แลนด์ในวันนี้ว่า ผลการสอบสวนได้ข้อสรุปว่า ขีปนาวุธบู๊ก (Buk) บนเครื่องยิงเคลื่อนที่ติดเรดาร์ (Telar) ที่ยิงเครื่องบินมาเลเซียตกเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 ระหว่างเดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย มาจากกองพันต่อต้านอากาศยานที่ 53 ในเมืองคูสค์ ทางตะวันตกของรัสเซียที่มีพรมแดนติดกับยูเครน กองพันนี้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพรัสเซีย
ที่ผ่านมาคณะสอบสวนสรุปเพียงว่า ขีปนาวุธที่ยิงเครื่องบินลำนี้ตกเป็นขีปนาวุธบู๊กผลิตในรัสเซีย นำเข้ามาจากรัสเซียและยิงจากดินแดนในยูเครนที่กลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียครอบครองอยู่ แต่ไม่ชี้ชัดว่าใครเป็นคนยิง ล่าสุดคณะสอบสวนสามารถชี้ชัดหลังจากนำภาพถ่ายและคลิปมาจำลองเส้นทางที่ขบวนขีปนาวุธเดินทางจากเมืองคูสค์มายังพรมแดนรัสเซียเข้าไปในยูเครน สาเหตุที่มั่นใจเพราะขีปนาวุธบู๊กและ Telar มีลักษณะเฉพาะตัวที่เป็นเหมือนลายนิ้วมือของขีปนาวุธ คณะสอบสวนกำลังมุ่งตรวจสอบผู้ต้องสงสัยร่วมร้อยคนที่เชื่อว่ามีส่วนสำคัญกับการยิงเครื่องบินมาเลเซียตก ขณะนี้ระบุตัวผู้ต้องสงสัยหลักแล้ว 2 คน จากข้อมูลที่ได้จากการดักฟังการสนทนาทั้งก่อนและหลังเครื่องบินตก
เที่ยวบิน MH17 มีผู้โดยสารและลูกเรือรวม 298 ชีวิต ประกอบด้วยคน 17 เชื้อชาติ เกือบ 200 คนเป็นชาวเนเธอร์แลนด์ รองลงมาเป็นชาวมาเลเซีย ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และอังกฤษ.-สำนักข่าวไทย