ย่างกุ้ง 23 พ.ค.- องค์กรสิทธิมนุษยชนแถลงวันนี้ว่า กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาก่อเหตุสังหารหมู่ประชาชนในหมู่บ้านชาวฮินดูระหว่างที่ก่อเหตุโจมตีหลายแห่งในรัฐยะไข่ของเมียนมาเมื่อปีที่แล้ว
องค์กรแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลมีรายงานว่า เหตุสังหารหมู่ดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาก่อเหตุโจมตีนองเลือดสถานีตำรวจหลายจุดในเวลาไล่เลี่ยกันจนส่งผลให้เกิดวิกฤตตามมา กองทัพเมียนมาปฏิบัติการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธอย่างหนักหน่วง ทำให้ชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 700,000 คนต้องอพยพหนีออกจากเมียนมา กองทัพได้พาผู้สื่อข่าวรวมทั้งเอเอฟพีไปตรวจสอบหลุมศพหมู่ซึ่งรวมถึงชาวฮินดูจำนวนมากเมื่อเดือนกันยายน แต่กองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาแห่งอาระกัน(อาร์ซา)ปฏิเสธเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามกลุ่มสิทธิแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลแถลงวันนี้ว่า จากการสอบสวนครั้งใหม่ยืนยันได้ว่า กลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาก่อเหตุสังหารหมู่ในรูปแบบของการประหารชีวิตและเหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กในหมู่บ้านที่เมืองมองดอ บทสัมภาษณ์ชาวฮินดูในท้องถิ่นซึ่งเป็นผู้รอดชีวิต 8 คนเปิดเผยว่า ชาวฮินดูหลายสิบคนถูกมัด ปิดตาและบังคับให้เดินออกมาเพื่อสังหารพวกเขาและมั่นใจว่าเป็นกองกำลังชาวโรฮิงญา นายนิมล ผู้นำชุมชนชาวฮินดูในรัฐยะไข่เผยว่า กลุ่มฆาตกรที่สังหารหมู่ชาวฮินดูหลบหนีไปบังกลาเทศแล้ว และกล่าวว่าผู้คนไม่ค่อยให้ความสนใจเหตุสังหารหมู่ชาวฮินดูเมื่อเปรียบเทียบกับชาวโรฮิงญา .- สำนักข่าวไทย