มอสโก 12 พ.ค.- นักวิเคราะห์มองว่า รัสเซียได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยกว่ายุโรป จากการที่สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2558 นอกจากนี้ภาคธุรกิจรัสเซียยังอาจได้ประโยชน์เสียด้วยซ้ำ
นักวิเคราะห์หลายคนมองตรงกันว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านช่วยให้ธุรกิจยุโรปกลับเข้าอิหร่านได้อีกครั้งเพราะได้ทยอยยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านแลกกับการที่อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ แต่เมื่อสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนี้และจะกลับไปคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง ทำให้ยุโรปต้องหาทางเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาเพราะสหรัฐเป็นตลาดใหญ่ของยุโรป ต่างจากรัสเซียที่ไม่ได้ทำธุรกิจกับสหรัฐมากนักจึงไม่มีอะไรจะเสีย เปิดทางให้บริษัทรัสเซียเดินหน้าเข้าตลาดอิหร่านได้เต็บสูบ การกระทำของสหรัฐจึงเท่ากับบีบให้อิหร่านหันไปหารัสเซียและจีนมากขึ้น
นักวิเคราะห์ชี้ว่า รัสเซียต้องการขายเหล็ก โครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง และสินค้าบริโภคให้แก่อิหร่าน ยิ่งมีการแข่งขันจากสหรัฐและยุโรปน้อยลงยิ่งเป็นผลดีต่อรัสเซีย นอกจากนี้รัสเซียยังมีโอกาสอย่างมากในการทำธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานกับอิหร่าน สถานการณ์ตึงเครียดขณะนี้จะช่วยให้ราคาน้ำมันซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐบาลรัสเซียทรงตัวในระดับสูงต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินที่รับปากจะพัฒนาเศรษฐกิจและลดความยากจนในการบริหารประเทศสมัยที่ 4
ความสัมพันธ์ของรัสเซียและอิหร่านเริ่มดีขึ้นตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น เพราะช่วงที่นานาชาติคว่ำบาตรอิหร่านในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 รัสเซียเข้าไปสานต่องานก่อสร้างโรงงานนิวเคลียร์เมืองบูเชอร์ของอิหร่านที่เยอรมนีถอนตัวออกมากลางคัน อย่างไรก็ดี การค้าทวิภาคีเมื่อปีก่อนมีมูลค่าเพียง 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 54,255 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 20 จากปีก่อนหน้านั้น และลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงปลายคริสต์ทศวรรษหลังปี 2000 ที่มีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 95,744 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย