เม็กซิโก 30 เม.ย.-คลื่นผู้อพยพจากอเมริกากลาง หลั่งไหลสู่เม็กซิโก ก่อนเข้าสู่สหรัฐ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชัดว่า ไม่ต้อนรับผู้อพยพลี้ภัยเหล่านี้
คาราวานผู้อพยพลี้ภัยจากอเมริกากลาง ทั้งจากฮอนดูรัส กัวเตมาลา และ เอลซัลวาดอร์ ที่รอนแรมเดินทางมาตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่านมา เริ่มเข้าสู่ด่านพรมแดนเม็กซิโกและสหรัฐแล้ว โดยหวังขอลี้ภัยเข้าไปตั้งรากใหม่ในสหรัฐ จนถึงขณะนี้มีผู้อพยพราว 20 คนที่ข้ามพรมแดนเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐแล้ว ขณะที่ผู้อพยพอีกเกือบ 400 คน กำลังตัดสินใจว่าจะข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐอย่างผิดกฎหมาย หรือ จะยื่นเรื่องขอลี้ภัยและอยู่ในดินแดนของเม็กซิโกไปก่อน
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้พยายามกดดันเม็กซิโกให้หยุดยั้งคาราวานผู้อพยพก่อนจะเดินทางถึงพรมแดนเม็กซิโกกับสหรัฐ พร้อมกับระบุว่า อนาคตข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟต้า ขึ้นอยู่กับเม็กซิโก ว่าจะหยุดยั้งคลื่นผู้อพยพชาวอเมริกากลางได้หรือไม่
ส่วนที่เมืองซานดิเอโก ผู้ประท้วงราว 100 คน ได้รวมตัวชุมนุมกันบริเวณแนวรั้วที่กั้นพรมแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก เพื่อสนับสนุนคาราวานผู้อพยพชาวอเมริกากลาง ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการจะขอลี้ภัยอย่างถูกกฎหมายเข้ามายังเมืองซานดิเอโก พร้อมกับให้เหตุผลว่า การที่พวกเขาต้องอพยพลี้ภัยจากประเทศของตัวเอง ก็เนื่องจากถูกขู่ฆ่าจากแก๊งอันธพาลท้องถิ่น สมาชิกครอบครัวถูกสังหาร ข่มขืน รวมทั้ง ถูกข่มเหงรังแกทางการเมือง.-สำนักข่าวไทย