สิงคโปร์ 27 เม.ย.- สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานคาดว่า ผู้นำสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) จะร่วมกันคัดค้านนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างร่วมการประชุมสุดยอดที่สิงคโปร์สุดสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความกังวลว่าจะมีการตอบโต้กันด้วยการตั้งกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐกับจีนซึ่งมีทีท่าว่าจะบานปลายกลายเป็นสงครามการค้าโลก
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีประชากรราว 650 ล้านคนเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีอัตราการเติบโตรวดเร็วติดอันดับโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดกว้างและเสรีทางการค้า อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์เตือนว่า ความตึงเครียดทางการค้าที่รุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐกับจีนสองประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่ของโลก เสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต เอเอฟพีรายงานร่างแถลงการณ์สรุปของผู้นำอาเซียน 10 ประเทศว่า ผู้นำอาเซียนสัญญาจะต่อต้านมาตรการกีดกันทางการค้าในการประชุมร่วมกันที่สิงคโปร์วันเสาร์นี้ ขณะที่เตือนแนวโน้มสถานการณ์ไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แนวโน้มการใช้นโยบายกีดกันทางการค้า และการดำเนินนโยบายของประเทศต่างๆ ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐออกคำสั่งเมื่อเดือนที่แล้วจนทำให้ทั่วโลกจับตามองจากการที่เขาประกาศตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมรวมทั้งสินค้าอื่นๆจากจีน ขณะที่ทางการจีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าเกษตรของสหรัฐ ผู้นำอาเซียนยังแสดงความยินดีกับการพบกันครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างนายคิม จองอึนผู้นำเกาหลีเหนือ กับประธานาธิบดีมุน แจอินผู้นำเกาหลีใต้ในวันนี้ รวมทั้งติดตามประเด็นซึ่งเป็นที่วิตกของผู้นำบางประเทศในภูมิภาคว่าด้วยเขตแดนทางบกและในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นปัญหาที่บ่อนทำลายความไว้วางใจกัน ทำให้เกิดความตึงเครียด กระทบสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาค.- สำนักข่าวไทย