ภาพประวัติศาสตร์! 2 ผู้นำเกาหลี จับมือข้ามเส้นเขตแดน

เกาหลีใต้ 27 เม.ย.- คิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือก้าวเท้าข้ามพรมแดนไปยังเกาหลีใต้ เพื่อประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ กับประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้ ทำให้บรรยากาศคาบสมุทรเกาหลีอบอุ่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา


นายคิม จอง อึน ได้กลายเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรกที่ก้าวเท้าข้ามพรมแดนไปยังประเทศเกาหลีใต้ บริเวณหมู่บ้านปันมุนจอม เส้นแบ่งเขตแดนสองเกาหลี ที่ตามปกติสถานการณ์ตึงเครียด และพร้อมที่จะเกิดสงครามได้ตลอดเวลา แต่วันนี้ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ยืนรอต้อนรับที่เส้นแบ่งเขตแดนด้วยตนเอง โดยนายคิมและประธานาธิบดีมุน จับมือทักทายกัน เมื่อเวลา 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 07.30 น.ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบ 65 ปี นับตั้งแต่สงครามเกาหลีสิ้นสุดลง


ด้านนายคิม ได้เชิญประธานาธิบดีมุน ให้ก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตแดนไปยังดินแดนเกาหลีเหนือเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะก้าวกลับไปยังดินแดนเกาหลีใต้โดยยังจับมือกัน หลังจากตรวจแถวทหารกองเกียรติยศร่วมกันแล้ว นายคิมหยุดแวะลงนามที่สมุดเยี่ยมที่อาคารสันติภาพ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเกาหลีใต้ โดยเขาเขียนข้อความว่า “ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เป็นยุคแห่งสันติภาพ จากจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์” 

ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน เป็นผู้นำเกาหลีใต้ที่พูดตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งว่า อยากจะรวมประเทศกับเกาหลีเหนือและมองเกาหลีเหนือในแง่มิตรมาตลอด ในขณะที่ก่อนหน้านี้ คิม จอง อึน ท้าทายด้วยการทดลองขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ แต่วันนี้ผู้นำเกาหลีเหนือมองเห็นว่า ไปไม่รอด เพราะถูกคว่ำบาตรทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ จึงยอมจับมือและพร้อมจะตั้งโต๊ะเจรจา


ประธานาธิบดีมุนและนายคิม จะหารือในเรื่องการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดจากอาวุธนิวเคลียร์และการแลกเปลี่ยนระหว่างสองเกาหลี จากนั้นจะมีการปลูกต้นไม้ที่ระลึกร่วมกันที่บริเวนหมู่บ้านปันมุนจอม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย