วอชิงตัน 21 เม.ย.- นักเรียนจากโรงเรียนและสถาบันการศึกษากว่า 2,600 แห่งทั่วประเทศสหรัฐร่วมกันประท้วงการใช้อาวุธปืนก่อความรุนแรงเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบปีที่ 19 ของเหตุการณ์ยิงสังหารหมู่ที่โรงเรียนโคลัมไบน์ ไฮสคูล
ที่บริเวณด้านหน้าของอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ผู้ประท้วงหลายคนสวมเสื้อสีส้ม ซึ่งเป็นสีที่เป็นตัวแทนของการเคลื่อนไหวต่อต้านการใช้ความรุนแรงที่เกิดจากการใช้อาวุธปืน ผู้ประท้วงเหล่านืถือป้ายที่มีถ้อยคำต่อต้านอาวุธปืน เรียกร้องให้รัฐบาลหาทางยุติเหตุรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนและบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดกว่าเดิมในการควบคุมอาวุธปืน สื่อมวลชนในสหรัฐรายงานว่า ในช่วง 16 สัปดาห์แรกของปีนี้ มีเหตุการณ์ยิงกันในโรงเรียนที่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บเกิดขึ้นทั้งหมด 20 ครั้ง บรรดาผู้ประท้วงเชื่อว่า กฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่ไม่เช้มงวดเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ยิงกันในโรงเรียน ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักเรียนในสหรัฐประท้วงด้วยการเดินออกนอกห้องเรียน หรือ วอล์คเอาท์ เพื่อประท้วงการใช้ปืนก่อเหตุรุนแรง เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา นักเรียนจากโรงเรียนกว่า 2,800 แห่งทั่วสหรัฐก็ลงมาเดินตามท้องถนนเพื่อรำลึกถึงนักเรียนและเจ้าหน้าที่ 17 คนของโรงเรียนมัธยมในฟลอริดา ที่เสียชีวิตจากเหตุยิงกันในวันวาเลนไทน์ สำหรับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 เมษายน 1999 เกิดขึ้นเมื่อมีมือปืน 2 คน ได้ก่อเหตุกราดยิงที่โคลัมไบน์ ไฮสคูล ทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 12 คน และครูอีก 1 คน ก่อนที่มือปืนทั้งสองจะฆ่าตัวตาย.-สำนักข่าวไทย