มอสโก 11 เม.ย.- รัสเซียและอียิปต์เปิดเที่ยวบินตรงระหว่างกันอีกครั้ง หลังจากระงับไปกว่า 2 ปี เพราะเหตุระเบิดครื่องบินเช่าเหมาลำของรัสเซียเหนือคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ที่คร่าชีวิตคนบนเครื่องหมดทั้งลำ 224 คน
เครื่องบินสายการบินแอโรฟลอตของรัสเซียจะเดินทางจากกรุงมอสโกไปกรุงไคโรของอียิปต์เย็นนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เครื่องบินสายการบินอียิปต์แอร์จะเปิดเที่ยวบินระหว่างสองเมืองหลวงในวันพรุ่งนี้ ทั้งสองสายการบินจะให้บริการเที่ยวบินไปกลับระหว่างกันรวมสัปดาห์ละ 5 เที่ยวบิน หลังจากระงับไปตั้งแต่เกิดเหตุเครื่องบินเมโทรเจ็ต ซึ่งเป็นสายการบินเช่าเหมาลำของรัสเซียระเบิดกลางอากาศขณะบินอยู่เหนือคาบสมุทรไซนายเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2558 หลังทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานชาร์มเอลเชคมุ่งหน้าไปยังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตหมดทั้งลำ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่าเป็นคนลงมือ
อย่างไรก็ดี โฆษกอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรัสเซียมองว่า การเปิดเที่ยวบินตรงกรุงมอสโก-กรุงไคโรอีกครั้งจะไม่ช่วยธุรกิจท่องเที่ยวอียิปต์เพราะกรุงไคโรไม่ใช่จุดหมายของนักท่องเที่ยว ขณะที่การเดินทางต่อไปยังรีสอร์ทริมทะเลแดงก็กินเวลาและไม่สะดวก ขณะที่เอกอัครราชทูตอียิปต์ประจำรัสเซียเคยเผยว่า ทั้งสองประเทศจะกำหนดวันหารือเรื่องเปิดเที่ยวบินตรงไปยังแหล่งท่องเที่ยวอียิปต์ทันทีที่เที่ยวบินตรงระหว่างเมืองหลวงกลับมาเป็นปกติ ด้านสำนักงานการบินกลางรัสเซียยอมรับว่า กังวลเรื่องเปิดเที่ยวบินไปอียิปต์อีกครั้ง โดยเฉพาะรีสอร์ทริมทะเลแดง หนังสือพิมพ์อียิปต์รายงานว่า รัสเซียจะส่งคณะผู้เชี่ยวชาญ 8 คนมายังท่าอากาศยานกรุงไคโรเพื่อตรวจสอบเที่ยวบินไปกรุงมอสโกว่ามีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือไม่
ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติในอียิปต์ลดลงจาก 14.7 ล้านคนในปี 2553 เหลือเพียง 5.4 ล้านคนในปี 2559 หลังเหตุระเบิดเครื่องบินดังกล่าว ประกอบกับอียิปต์เกิดเหตุไม่สงบหลังการโค่นล้มประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงจาก 11,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 361,740 ล้านบาท) ในปี 2553 เหลือเพียง 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 118,500 ล้านบาท) ในปี 2559.- สำนักข่าวไทย