โฆษกผู้นำฟิลิปปินส์ยืนยันไม่ได้ซื้อข้อมูลให้ชนะเลือกตั้ง

มะนิลา 10 เม.ย.- โฆษกประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ยืนยันว่า ชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2559 ไม่ได้มาจากการซื้อข้อมูลและไม่ได้จ้างบริษัทข้อมูลอังกฤษที่นำข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กไปใช้ด้วย 


โฆษกกล่าวว่า ชัยชนะของประธานาธิบดีดูเตอร์เตซื่อสัตย์และถูกต้อง พร้อมกับอ้างคำกล่าวของนายการ์ลอส โดมิงเกซ รัฐมนตรีคลังที่เคยเป็นผู้ดูแลการเงินในคณะหาเสียงของดูเตอร์เตว่า ไม่เคยติดต่อกับเคมบริดจ์ อนาลีติกา บริษัทข้อมูลอังกฤษที่ถูกระบุว่านำข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กไปใช้ประโยชน์สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2559 และการลงประชามติอังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิทในปีเดียวกัน นายโดมิงเกซกล่าวด้วยว่า เป็นการกล่าวหาเลื่อนลอย หลังจากหนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ในฮ่องกงรายงานเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เอสซีแอล บริษัทแม่ของเคมบริดจ์ อนาลีติกา อ้างว่า มีส่วนช่วยให้ดูเตอร์เตได้เป็นผู้นำฟิลิปปินส์ 

หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ระบุว่า นายอเล็กซานเดอร์ นิกซ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เคมบริดจ์ อนาลีติกาที่ถูกสั่งพักงานอยู่ในขณะนี้ เคยรับประทานมื้อค่ำกับเจ้าหน้าที่สองคนในคณะหาเสียงของดูเตอร์เตที่กรุงมะนิลาก่อนการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2559 พร้อมกับลงภาพประกอบด้วย เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ถูกพาดพิงแย้งว่า ข่าวนี้ไม่ถูกต้อง เขาเคยพบนายนิกซ์เพียงครั้งเดียว และเป็นการรับประทานมื้อเที่ยงในเดือนพฤษภาคม 2558 


ในจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊กที่คาดว่าถูกเคมบริดจ์ อนาลีติกานำข้อมูลไปใช้กว่า 87 ล้านรายนั้น อยู่ในสหรัฐมากที่สุด รองลงมาคือฟิลิปปินส์ คณะกรรมการความเป็นส่วนตัวแห่งชาติของฟิลิปปินส์เผยว่า เฟซบุ๊กแจ้งว่า บริษัทข้อมูลอังกฤษได้ข้อมูลจากผู้ใช้ชาวฟิลิปปินส์ราว 1.17 ล้านราย บริษัทนี้แถลงยืนยันเมื่อวานนี้ว่า ไม่ได้เจาะข้อมูลผู้ใช้ แต่ได้มาจากบริษัทวิจัยที่หาข้อมูลอย่างถูกกฎหมายด้วยเครื่องมือที่มีอยู่ในเฟซบุ๊ก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย