โตเกียว 2 ก.พ.- เจ้าหน้าที่กำกับดูแลการเงินของญี่ปุ่นบุกตรวจคอยน์เช็ก เว็บไซต์แลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีที่ถูกเจาะระบบขโมยเงินดิจิทัลเข้ารหัสมูลค่า 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16,620 ล้านบาท) เมื่อสัปดาห์ก่อน
นายทาโร อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นแถลงว่า ทางการสั่งให้คอยน์เช็กส่งรายงานเรื่องการถูกแฮกเอ็นอีเอ็ม ซึ่งเป็นคริปโตเคอเรนซีสกุลหนึ่งและมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยภายในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ แต่สำนักงานบริการการเงิน (เอฟเอสเอ) ได้เข้าไปตรวจสอบโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าในวันนี้เพื่อคุ้มครองผู้ใช้คริปโตเคอเรนซี ด้านเอฟเอสเอเผยว่า ได้สั่งให้เว็บไซต์แลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซีทุกแห่งส่งรายงานบริหารความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับระบบ
แหล่งข่าวเผยว่า เอฟเอสเอได้ซักถามคอยน์เช็กแล้วแต่มีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่กระจ่าง เจ้าหน้าที่สอบสวนร่วม 10 นายเริ่มตรวจสอบตั้งแต่เช้าวันนี้เพื่อตรวจดูฐานะการเงิน การตอบสนองลูกค้า และโครงสร้างการบริหารระบบ ส่วนเรื่องที่คอยน์เช็กแถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะคืนคริปโตเคอเรนซีมูลค่า 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13,330 ล้านบาท) ให้แก่ลูกค้านั้น เอฟเอสเอยังไม่ยืนยันว่า คอยน์เช็กมีเงินมากพอที่จะคืนหรือไม่ ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่ออกระเบียบกำกับดูแลคริปโตเคอเรนซีระดับประเทศเมื่อปีก่อน ขณะที่จีนใช้วิธีปิดเว็บไซต์แลกเปลี่ยน
ราคาคริปโตเคอเรนซีที่ทะยานขึ้นเป็นร้อยเท่าเมื่อปีก่อนดึงดูดให้นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากกระโจนเข้าร่วมในตลาดนี้ จนเกิดความกังวลเรื่องการเก็งกำไรและการถูกแก๊งอาชญากรใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน คริปโตเคอเรนซียอดนิยมอย่างบิทคอยน์ทำสถิติใกล้แตะหน่วยละ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 627,100 บาท) เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน แต่ราคาเมื่อวานนี้แตะระดับต่ำสุดที่ 9,022 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 282,900 บาท).-สำนักข่าวไทย