เยรูซาเล็ม 25 ธ.ค.- อิสราเอลขอบคุณประธานาธิบดีจิมมี มอราเลสของกัวเตมาลาที่ประกาศจะย้ายสถานทูตในอิสราเอลจากกรุงเทลอาวีฟกลับไปนครเยรูซาเล็มที่กัวเตมาลาเคยตั้งมาก่อน
นายยูลี เอเดลสไตน์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรอิสราเอลทวีตว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้นำกัวเตมาลาที่ตัดสินใจอย่างกล้าหาญเรื่องจะย้ายสถานทูตในอิสราเอลไปยังเยรูซาเล็ม เป็นการตัดสินใจที่พิสูจน์ว่ากัวเตมาลาเป็นมิตรที่แท้จริงของอิสราเอล ขณะที่นางอะเยเล็ต ชาเค็ด รัฐมนตรียุติธรรมอิสราเอลทวีตขอบคุณผู้นำกัวเตมาลาที่ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ เธอมั่นใจว่าประเทศอื่น ๆ จะดำเนินรอยตามอย่างแน่นอน ด้านนายแมตตี โคเฮน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำกัวเตมาลาให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุทหารอิสราเอลว่า ยังไม่กำหนดวันย้ายสถานทูต โดยจะรอให้สหรัฐย้ายก่อน เจ้าหน้าที่สหรัฐเคยเผยว่า การย้ายต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี
สถานภาพของเยรูซาเล็มเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของการเจรจาสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์ อิสราเอลอ้างสิทธิเหนือเยรูซาเล็มทั้งเมือง ปาเลสไตน์ยืนยันว่าเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ที่จะประกอบด้วยเขตเวสต์แบงก์และฉนวนกาซา ขณะที่ประชาคมโลกไม่ยอมรับการอ้างสิทธิของอิสราเอลเพราะเป็นประเด็นอ่อนไหว เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนายูดาห์ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม เดิมกัวเตมาลาและอีก 12 ประเทศได้แก่ โบลิเวีย ชิลี โคลอมเบีย คอสตาริกา โดมินิกัน เอกวาดอร์ เอลซัลวาดอร์ เฮติ เนเธอร์แลนด์ ปานามา เวเนซุเอลา และอุรุกวัย ตั้งสถานทูตในเยรูซาเล็ม จนกระทั่งอิสราเอลออกกฎหมายในเดือนมิถุนายน 2523 ประกาศว่า เยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงที่แยกไม่ได้และเป็นนิรันดร์ เป็นเหตุให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีมติให้ประเทศเหล่านี้ย้ายสถานทูตไปกรุงเทลอาวีฟ.- สำนักข่าวไทย