เมลเบิร์น 23 ธ.ค.- ผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันที่ขับรถพุ่งชนคนเดินเท้าที่นครเมลเบิร์นของออสเตรเลียถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า 18 กระทงในวันนี้ ด้านตำรวจจะเพิ่มกำลังอารักขาแน่นหนามากขึ้นในช่วงคริสต์มาส
ตำรวจรัฐวิกตอเรียแถลงว่า ชายวัย 32 ปีที่ก่อเหตุเมื่อวันพฤหัสบดีถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า 18 กระทง และข้อหากระทำการอันเป็นอันตรายต่อชีวิต 1 กระทง บรรษัทกระจายเสียงออสเตรเลีย (เอบีซี) รายงานว่า นายซาอีด นูรี ไม่ได้ยื่นขอประกันตัวต่อศาล และแสดงความรู้สึกสะเทือนใจเมื่อเห็นมารดาร่ำไห้ขณะฟังการพิจารณาคดีในวันนี้ ศาลสั่งประเมินสุขภาพจิตเขาก่อนนำตัวขึ้นศาลอีกครั้งในวันพุธหน้า ขณะนี้ยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจที่เขาขับรถพุ่งฝ่าสี่แยกย่านพลุกพล่านไปชนนักท่องเที่ยวและผู้เดินจับจ่ายซื้อของ เขามีประวัติเสพยาเสพติดและมีปัญหาสุขภาพจิต แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย
สำหรับผู้บาดเจ็บทั้ง 19 คนนั้น ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 12 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 3 คน ผู้บาดเจ็บเป็นชาวต่างชาติ 9 คน มาจากหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ จีน อิตาลี อินเดีย เวเนซุเอลา ไอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า ตำรวจกำลังทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถในการรักษาความปลอดภัย เพราะต้องดูแลงานใหญ่ที่จัดขึ้นพร้อม ๆ กัน ทั้งการจุดเทียนร้องเพลงในคืนก่อนวันคริสต์มาส การแข่งคริกเก็ตระหว่างทีมออสเตรเลียกับอังกฤษในวันเปิดกล่องของขวัญ 26 ธันวาคม
นครเมลเบิร์นเคยเกิดเหตุคนร้ายขับรถพุ่งชนคนเดินเท้าหน้าห้างสรรพสินค้ายอดนิยมเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ มีผู้เสียชีวิต 6 คน การพิจารณาคดียังคงไม่เสร็จสิ้น คนร้ายมีประวัติเสพยาเสพติดและมีข่าวว่าแทงพี่หรือน้องชายก่อนก่อเหตุ ทั้งนี้นับตั้งแต่เกิดเหตุคนร้ายขับรถบรรทุกชนผู้คนที่กำลังเดินกลับจากการชมการแสดงดอกไม้ไฟวันชาติฝรั่งเศสที่เมืองนีซเมื่อปีก่อนที่มีคนเสียชีวิตมากถึง 86 คน ออสเตรเลียและหลายประเทศได้ดำเนินมาตรการหลายอย่างเพื่อป้องกันคนร้ายขับรถพุ่งชนคนในที่สาธารณะที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิด ติดตั้งรั้ว ต้นไม้และเสาชะลอความเร็วและแรงของรถที่จะก่อเหตุ นอกจากนี้นครเมลเบิร์นยังมีระบบไซเรนเตือนประชาชนในกรณีที่อาจเกิดการก่อการร้ายหรือเหตุร้ายแรงด้วย.-สำนักข่าวไทย