fbpx

สารคดีโลก : ปัญหาลักพาตัวเจ้าสาวในคีร์กีซสถาน

คีร์กีซสถาน 13 ธ.ค.-ในแต่ละปีมีหญิงสาวชาวคีร์กีซนับหมื่นคนที่ถูกลักพาตัวไปและถูกบังคับให้แต่งงานกับคนแปลกหน้า แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแต่ก็ยังพบได้ทั่วไป ปัญหานี้จะเป็นไปอย่างไรติดตามได้ในสารคดีโลกวันนี้


การถ่ายภาพแต่งงานเป็นที่ระลึกอย่างมีความสุขของคู่บ่าวสาวกับสถานที่สำคัญในกรุงบิชเคก เมืองหลวงของคีร์กีซสถาน นั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคู่ที่จะมีความสุขเช่นนั้น ข้อมูลของสหประชาชาติระบุว่าแต่ละปีมีหญิงสาวชาวคีร์กีซราว 12,000 คน ที่ถูกลักพาตัวและถูกบังคับให้แต่งงาน กุลชาน ตูร์ดูบาเยวา หญิงสาววัย 30 ปีเป็นอีกคนหนึ่งที่เคยถูกลักพาตัวเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวยังเรียนหนังสือและทำงานเป็นนักข่าวไปด้วย โดยใฝ่ฝันว่าจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแต่กลับต้องถูกลักพาตัว 

แม้ว่าจะมีกฎหมายกำหนดโทษว่า ผู้กระทำผิดฐานลักพาตัวจะมีโทษจำคุกถึง 10 ปี แต่ทุกวันนี้กลับไม่ได้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด การลักพาตัวยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและแทบไม่มีการลงโทษผู้กระทำผิด จึงทำให้เกิดกลุ่มรณรงค์เรียกร้องให้ปรับเปลี่ยนทัศนคติทางสังคมเพื่อสร้างหลักประกันว่าจะมีการลงโทษตามกฎหมายอย่างจริงจัง และเมื่อปีที่แล้วเรื่องราวของตูร์ดูบาเยวา ได้กลายมาเป็นการ์ตูนเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อและชี้ให้เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในสังคม  


ขณะที่ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยดุ๊คในสหรัฐฯ พบว่า การแต่งงานในคีร์กีซสถานร้อยละ 23 เกิดจากการลักพาตัว บางราย ฝ่ายชายจะกักตัวผู้หญิงไว้ในบ้านของตนเองจนกว่าจะยอมแต่งงานด้วย และในหลายกรณีพบว่า ญาติหรือคนในครอบครัวของหญิงสาวเป็นคนจัดแจงให้มีการลักพาตัวเพื่อแต่งงานกับชายที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน บางครอบครัวถึงกับยื่นคำขาดจะตัดแม่ตัดลูกกันหากหญิงสาวไม่ยอมแต่งงาน แต่ทุกวันนี้ทัศนคติของผู้หญิงชาวคีร์กีซเปลี่ยนไปมาก หลายคนลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวเอง ขณะเดียวกันกฎหมายก็เพิ่มความคุ้มครองเหยื่อมากขึ้น แต่นั่นคงไม่มีความหมายมากนัก ตราบใดที่ทัศนคติของสังคมที่มีต่อผู้หญิงยังไม่เปลี่ยนแปลงไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้

“นิกร” เผยร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้ ชง ครม. เป็นเจ้าภาพ ยกร่าง-เคาะปม ม.112 จะรวมหรือไม่ หวั่นคําวินิจฉัยศาลฟันก้าวไกล พ่นพิษ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว