แซนดีเอโก 9 ธ.ค.- กระแสลมแรงโหมไฟป่าที่กำลังโหมไหม้ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐให้ลามลงไปทางใต้มากยิ่งขึ้น ประชาชนหลายแสนคนต้องอพยพหนีไฟป่าที่เกิดขึ้นหลายจุด อีกทั้งยังมีไฟป่าเกิดใหม่หลายจุดใกล้เมืองแซนดีเอโก
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายพันนายกระจายกำลังควบคุมแนวไฟป่าทั้งหมด 6 แนวได้แก่ ไฟป่าลิเบอร์ตีในเทศมณฑลริเวอร์ไซด์ที่เผาพื้นที่ไปแล้ว 750 ไร่ แต่ควบคุมไฟได้เพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ไฟป่าโทมัสในเทศมณฑลเวนชูราที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์เผาพื้นที่ไปแล้ว 330,000 ไร่ หรือราวสามเท่าของกรุงวอชิงตัน ไฟป่าไลแลคที่เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีเผาพื้นที่ไปแล้วกว่า 10,000 ไร่ ทำให้ต้องอพยพชาวเมืองซานตาบาร์บาราที่ไฟลามมาใกล้ ไฟป่าสกีร์บอลที่โหมไหม้เนินเขาย่านเบลแอร์ในนครลอสแอนเจลิส (แอลเอ) ที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นจนไฟแดงฉานไปทั่ว ไฟป่าไรในเทศมณฑลแอลเอที่เผาพื้นที่ไปกว่า 15,000 ไร่ ควบคุมได้แล้วร้อยละ 35 และไฟป่าครีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเทศมณฑลแอลเอ เผาพื้นที่ไปกว่า 37,500 ไร่
สตรีวัย 76 ปี ชาวเมืองเมอร์เรียตา เทศมณฑลริเวอร์ไซด์ เผยว่า ไม่เคยเจอไฟป่ารุนแรงขนาดมาก่อนตลอดเวลาที่อยู่เมืองนี้มาร่วม 20 ปี นายเจอร์รี บราวน์ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเทศมณฑลซานตาบาร์บารา แซนดีเอโก แอลเอ และเวนชูรา ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อให้สามารถจัดสรรงบรัฐบาลกลางไปช่วยบรรเทาภัย อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตจากไฟป่าล่าสุดเพียง 1 ราย หลังจากเมื่อเดือนตุลาคมมีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คนเมื่อไฟป่าโหมไหม้พื้นที่ผลิตไวน์ในหลายเทศมณฑลทางตอนเหนือของซานฟรานซิสโก.-สำนักข่าวไทย