วอชิงตัน 8 ธ.ค.- นายเดวิด แซตเตอร์ฟิลด์ รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ สำนักงานกิจการตะวันออกใกล้แถลงทำความเข้าใจกับผู้สื่อข่าว หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศรับรองว่าเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล
นายแซตเตอร์ฟิลด์ ซึ่งทำงานในกระทรวงต่างประเทศตั้งแต่ปี 2523 เป็นทั้งนักการทูตและเอกอัครราชทูต ส่วนใหญ่รับผิดชอบกิจการตะวันออกกลาง ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวเรื่องเมืองหลวงของอิสราเอลคือเมืองไหนว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศชัดเจนแล้วว่าสหรัฐรับรองว่าเยรูซาเล็มคือเมืองหลวงของรัฐอิสราเอล นโยบายเกี่ยวกับงานกงสุลหรือการออกหนังสือเดินทางในขณะนี้ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องแผนที่ในเอกสารของทางการ กระทรวงกำลังพิจารณาอยู่และจะประกาศให้ทราบเมื่อหาข้อสรุปได้แล้ว
ต่อข้อถามเรื่องเยรูซาเล็มตะวันออก ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวเพราะเป็นที่ตั้งของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนายูดาห์ คริสต์และอิสลามที่อิสราเอลยึดจากจอร์แดนในสงคราม 6 วันปี 2510 และข้อถามเรื่องสถานภาพความเป็นพลเมืองของชาวปาเลสไตน์ 300,000 คนในเยรูซาเล็มตะวันออกที่องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ประกาศในปี 2531 ว่าเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ นายแซตเตอร์ฟิลด์กล่าวว่า ยังไม่มีการหารือประเด็นเขตแดนอธิปไตย ขอย้ำว่าประธานาธิบดีได้รับรองว่าเยรูซาเล็มคือเมืองหลวงของอิสราเอล แต่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือแสดงจุดยืนใด ๆ เกี่ยวกับเขตแดนอธิปไตยของเยรูซาเล็มทั้งหมด รวมถึงเขตแดนทางภูมิศาสตร์ และประเด็นการเจรจาสถานะสุดท้ายหรือสถานะถาวรของอิสราเอลกับปาเลสไตน์
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสหรัฐได้ประโยชน์อะไรจากการรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล นายแซตเตอร์ฟิลด์ตอบว่า ประธานาธิบดีเชื่อว่าจะช่วยให้การเจรจาสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์มีความคืบหน้ามากขึ้น.-สำนักข่าวไทย