นิวยอร์ก 7 ธ.ค.- สถานีข่าวซีบีเอสนิวส์รายงานว่า คำประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ผู้นำสหรัฐที่ให้การรับรองสถานะเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และสั่งเริ่มกระบวนการย้ายสถานทูตสหรัฐออกจากรุงเทลอาวีฟไปนครเยรูซาเลมนั้น ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ตำหนิทันทีจากโลกอาหรับและผู้นำหลายประเทศทั่วโลก
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวว่า เป็นการตัดสินใจที่น่าผิดหวัง นายกรัฐมนตรีอิตาลีระบุอนาคตของนครเยรูซาเลม ควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการเจรจาสันติภาพตะวันออกกลาง และสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ตำหนิความเคลื่อนไหวแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐ ผู้นำโลกและนักการทูตต่างแสดงความผิดหวังที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศรับรองสถานะเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอลอย่างเป็นทางการ และเท่ากับทำให้อิสราเอลสมหวังต่อการอ้างสิทธิครอบครองมานานในเยรูซาเลม ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของทั้งชาวมุสลิม ชาวคริสต์ และชาวยิว ผู้นำหลายประเทศประสานเสียงเตือนว่า จะเป็นอันตรายต่อกระบวนการสันติภาพและก่อให้เกิดความรุนแรงตามมาได้ นายรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษคัดค้านต่อคำประกาศของสหรัฐ และยืนยันว่าอังกฤษไม่มีนโยบายย้ายสถานทูตอังกฤษในอิสราเอล ด้านนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีไม่สนับสนุนการตัดสินใจของสหรัฐ และสถานะเยรูซาเล็มควรปล่อยให้เป็นไปตามการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวคัดค้านการดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐ .-สำนักข่าวไทย