บัวโนสไอเรส 25 พ.ย. – ครอบครัวของลูกเรือดำน้ำอาร์เจนตินา 44 คน ที่หายไปพร้อมเรือดำน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งแต่วันพุธที่แล้ว พากันเดินทางกลับบ้าน เพราะหมดหวังเรื่องรอดชีวิต หลังจากผ่านไปแล้ว 9 วัน แต่ออกซิเจนในเรือใช้ได้เพียง 7 วันเท่านั้น
ครอบครัวเดินทางมารอฟังข่าวด้วยความหวัง ที่ฐานทัพเรือเมืองมาร์เดลปลาตา ตั้งแต่วันจันทร์ จนกระทั่งองค์กรสนธิสัญญาห้ามการทดลองนิวเคลียร์อย่างครอบคลุม แจ้งเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ตรวจพบเสียงระเบิดรุนแรงที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ หลายครอบครัวเผยว่า ต้องทำใจยอมรับความจริงว่าหมดหวังแล้ว ขณะที่บางครอบครัวขอรอฟังข่าวต่อไปจนกว่าจะพบเรือดำน้ำ บางคนตำหนิกองทัพเรือว่า ส่งคนที่พวกเขารักไปเสี่ยงชีวิตกับเรือดำน้ำที่มีอายุใช้งานมานานกว่า 30 ปี เรือเออาร์เอ ซานฮวน เริ่มใช้งานตั้งแต่ปี 2526 และถูกนำขึ้นซ่อมบำรุงในปี 2551
ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มากรี ของอาร์เจนตินา แถลงว่า จะไม่ยุติการค้นหาและหวังว่าจะพบตำแหน่งของเรือดำน้ำในเร็วๆ นี้ พร้อมกับเรียกร้องให้เปิดการสอบสวนในเชิงลึกทันทีที่เสร็จสิ้นการค้นหา เพื่อหาสาเหตุว่า เหตุใดเรือดำน้ำที่ได้รับการซ่อมบำรุงและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเต็มที่จึงระเบิดได้ ขณะที่โฆษกกองทัพเรือ แถลงว่า สภาพอากาศที่ดีขึ้นเอื้อต่อการให้เรือติดอุปกรณ์ค้นหาใต้น้ำทำงานได้สะดวกขึ้น โดยจะตรวจตรารอบพื้นที่ที่คิดว่าได้ยินเสียงระเบิดในเช้าวันพุธ ที่เรือดำน้ำส่งสัญญาณเป็นครั้งสุดท้าย ขณะอยู่ห่างจากชายฝั่งด้านมหาสมุทรแอตแลนติกของอาร์เจนตินา 480 กิโลเมตร ปฏิบัติการค้นหาในขณะนี้มีเครื่องบินและเรือจาก 13 ประเทศเข้าร่วมรวม 30 ลำ.-สำนักข่าวไทย