ซิดนีย์ 24 พ.ย.- ตำรวจปาปัวนิวกินีย้ายผู้ขอลี้ภัยออกจากค่ายกักกันของออสเตรเลียหมดแล้วในวันนี้ หลังจากผู้ขอลี้ภัยหลายร้อยคนขัดขืนจนเกิดการเผชิญหน้าและใช้กำลังมาร่วม 3 สัปดาห์
ปฏิบัติการย้ายผู้ขอลี้ภัยเริ่มขึ้นอีกครั้งในเช้าวันนี้หลังจากเริ่มมาตั้งแต่วานนี้ ผู้ขอลี้ภัยที่เหลืออยู่ 50 คนถูกนำตัวออกจากค่ายกักกันมานุสที่ดำเนินการโดยออสเตรเลียและถูกปิดตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม ไปรวมกับผู้ขอลี้ภัย 320 คนเพื่อนำตัวไปยังศูนย์ส่งต่อแห่งใหม่ที่ปาปัวนิวกินีเป็นผู้ดำเนินการและมีทั้งหมด 3 แห่ง ตำรวจเผยว่า ปฏิบัติการเสร็จสิ้นแล้ว ทหารกลับกรมกองหมดแล้ว ผู้ขอลี้ภัยได้โพสต์ภาพและคลิปในสื่อสังคมออนไลน์เห็นตำรวจใช้แท่งโลหะกระทุ้งผู้ขอลี้ภัยและลากออกจากห้องพักไปขึ้นรถโดยสารเพื่อนำตัวไปยังศูนย์ส่งต่อ แต่ตำรวจยืนยันว่า ไม่ได้ใช้กำลังกับผู้ขอลี้ภัยที่ไม่ยอมออกค่ายกักกันทั้งที่ถูกปิดถูกตัดน้ำตัดไฟไปแล้ว
นายปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีคนเข้าเมืองออสเตรเลียกล่าวหากลุ่มปกป้องสิทธิผู้ลี้ภัยว่า กระจายข่าวคลาดเคลื่อน พร้อมกับยืนยันว่าค่ายส่งต่อที่ปาปัวนิวกินีดำเนินการสามารถอยู่อาศัยได้แล้ว สวนทางกับที่ผู้ขอลี้ภัยและกลุ่มสิทธิแย้งว่า ยังไม่พร้อมให้เข้าไปอยู่และไม่ปลอดภัยเพราะชาวบ้านละแวกนั้นไม่ต้อนรับ ออสเตรเลียเปิดค่ายกักกันมานุสที่ปาปัวนิวกินีตั้งแต่ปี 2556 เดิมมีผู้ขอลี้ภัยทั้งหมด 600 คน ในจำนวนนี้ 200 คนยอมย้ายไปค่ายอื่นด้วยความสมัครใจตั้งแต่ต้นเดือน ออสเตรเลียใช้นโยบายแข็งกร้าวส่งตัวผู้ขอลี้ภัยทางเรือไปยังค่ายกักกันบนปาปัวนิวกินีและนาอูรู.- สำนักข่าวไทย
