ไทย-ญี่ปุ่นแลกเปลี่ยนความรู้การพัฒนาความร่วมมือระหว่างท้องถิ่น

กรุงเทพฯ 16 พ.ย. – ไทย-ญี่ปุ่นร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านความร่วมมือในระดับท้องถิ่นระหว่างประเทศ เพื่อร่วมพัฒนาท้องถิ่นของทั้งสองชาติ ในโอกาสครบรอบความสัมพันธ์ 130 ปี


สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับทางการจังหวัดมิเอะ มหาวิทยาลัยมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น และกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ จัดงานสัมมนานานาชาติเรื่อง “ความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นในระดับท้องถิ่น” เนื่องในโอกาสครบรอบ 130 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับญี่ปุ่น โดยมีบุคคลและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานด้านความร่วมมือและแลกเปลี่ยนในระดับท้องถิ่น รวมทั้งนักวิชาการจากญี่ปุ่นและไทย มาร่วมแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ และความคิดเห็น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาท้องถิ่นของทั้งสองประเทศ

ผู้ร่วมเสวนามีความเห็นสอดคล้องกันว่า โครงสร้างการปกครองของญี่ปุ่น มักให้อำนาจเบ็ดเสร็จแก่รัฐบาลท้องถิ่น ในการบริหารจัดการในเขตพื้นที่ รัฐบาลท้องถิ่นจึงมีบทบาทในการริเริ่มโครงการความร่วมมือและแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศด้วยตนเอง โดยคู่ขนานไปกับการดำเนินนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลกลางได้ ด้วย นอกจากนี้แต่ละท้องถิ่นของญี่ปุ่นยังมีลักษณะเฉพาะตัวสูง ทางการจึงสามารถมุ่งเน้นไปที่ความร่วมมือด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ ส่งผลให้ท้องถิ่นได้รับประโยชน์เต็มที่


ในขณะที่การดำเนินงานของทางการท้องถิ่นไทยด้านความร่วมมือกับท้องถิ่นต่างประเทศ มีอุปสรรคสำคัญ คือ ขาดความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบาย สืบเนื่องจากการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ อีกทั้งโครงสร้างการปกครองของไทย เน้นการรวมศูนย์อำนาจ ไว้ที่รัฐบาลกลาง ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นไม่มีอำนาจดำเนินงานอย่างเต็มที่ และต้องผ่านกระบวนการยุ่งยากล่าช้า นอกจากนี้ยังไม่มีหน่วยงานที่สนับสนุนความร่วมมือกับท้องถิ่นต่างประเทศโดยตรงอย่างญี่ปุ่น และรัฐบาลท้องถิ่นยังมีความสนใจจะร่วมมือกับต่างประเทศน้อย จึงนับเป็นความท้าทายที่ทางการท้องถิ่นไทยจะต้องก้าวข้ามให้ได้ และญี่ปุ่นก็นับเป็นแบบอย่างที่ดีที่ไทยสามารถศึกษา

ทางด้านนายเออิเกะ ซูซูกิ ผู้ว่าราชการจังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น ถ่ายทอดประสบการณ์เกี่ยวกับแบบอย่างความสำเร็จในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในระดับท้องถิ่นของจังหวัดมิเอะ ว่าทางจังหวัดอาศัยความร่วมมือบูรณาการระหว่าง 3 ภาคส่วนหลักประกอบด้วยภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจังหวัดมิเอะกำลังมีความโดดเด่นอย่างมาก รวมทั้งภาคการศึกษา อันเป็นคลังผลิตความรู้สำคัญ และยังช่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดรับกับการพัฒนาความร่วมมือต่อไปด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ