จีน 3 พ.ย. – โปรเจกต์ยักษ์ของจีนที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง คือ การรื้อฟื้นเส้นทางสายไหม กลับมาเป็นเส้นเลือดใหญ่ของการค้าโลกอีกครั้ง จะทำให้บรรดาธุรกิจบนทางผ่านมีโอกาสค้าขายในตลาดโลกมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือสินค้าศิลปหัตถกรรม
ศิลปหัตถกรรมอันวิจิตรเหล่านี้ ครั้งหนึ่งเป็นสินค้าเด่นที่โลดแล่นบนเส้นทางสายไหม ถนนการค้าข้ามทวีปอันเลื่องชื่อ วันนี้เป็นอีกครั้งที่งานศิลป์ทรงคุณค่าพวกนี้ได้ออกสู่สายตาคนหลากเชื้อชาติ ในงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ 14
ถ้าพูดถึงผลิตภัณฑ์หยก หลายคนอาจนึกถึงหยกของจีน แต่ที่เห็นตรงนี้คือเครื่องหยกปากีสถาน ที่มีจุดเด่นสำคัญคือ เนื้อหยกมีระดับความแข็งน้อยกว่าประเทศอื่น แถมยังมีราคาถูกอีกด้วย และนี่ก็เป็นสินค้าที่ปากีสถานต้องการโปรโมทสู่ตลาดโลกผ่านเส้นทางสายไหม
แร่หยกปากีสถานมีเนื้อโปร่งใส ต่างกับชาติอื่นที่ค่อนไปทางทึบ ทำให้สีสันเครื่องหยกปากีสถานโดดเด่น ดึงดูดสายตาผู้คนในงาน จนเรียกได้ว่าเป็นสินค้าเด่นของประเทศ
ปากีสถาน คือหนึ่งในประเทศที่ได้รับเชิญมาแสดงสินค้าในงาน China-ASEAN Expo เป็นปีแรก ในฐานะชาติร่วมโครงการเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 ที่รัฐบาลจีนทุ่มงบกว่า 3 ล้านล้านบาท สร้างทางขนส่งสินค้าทั้งทางบกและทะเลเชื่อม 65 ประเทศเข้าด้วยกัน ทำให้อีกไม่ช้าประเทศเหล่านี้จะทำการค้ากับจีนและอาเซียนได้มากขึ้น
สินค้าที่น่าจับตามองของชาติเหล่านี้ หนีไม่พ้นศิลปหัตถกรรมที่เป็นมรดกภูมิปัญญามานับพันปี บรรดาผู้ประกอบการต่างหวังว่าเส้นทางสายไหมใหม่และงาน China-ASEAN Expo จะทำให้กิจการงานศิลป์ที่สืบทอดมา
แม้จะเป็นปีแรกของโซนแสดงสินค้าจากชาติเส้นทางสายไหม แต่คนจีนก็สนใจชมกันหนาตา รวมถึงสาววัย 26 ผู้หลงใหลผ้าไหมคนนี้ เธอตื่นตากับผ้าไหมเนปาลเป็นพิเศษ เพราะสีสันแปลกตา เนื้อผ้าหนา เส้นไยเหนียว กันหนาวได้ดี
เสน่ห์ของงานศิลป์เหล่านี้ คือ งานแฮนด์เมดล้วนๆ ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ 100% และสะท้อนวัฒนธรรมของชนชาติตัวเองได้อย่างดี การเกิดขึ้นของเส้นทางสายไหมยุคใหม่นี้จึงไม่ใช่เพียงทำให้ธุรกิจศิลปหัตถกรรมได้ลืมตาอ้าปากเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณค่าอารยธรรมได้ออกสู่สายตาชาวโลก นับเป็นมรดกที่โลกต้องดูแลรักษาร่วมกัน. – สำนักข่าวไทย
