ไต้หวัน 11 ก.ค. – เวลานี้ไต้หวันอยู่ระหว่างซ้อมรบครั้งใหญ่ ซึ่งจัดขึ้นในบริบทที่หลายปีมานี้มีการคาดการณ์อย่างมากว่าจีนเตรียมบุกยึดไต้หวัน
การซ้อมรบปีนี้ ไต้หวันจัดใหญ่กว่าเดิม อวดโฉมเขี้ยวเล็บใหม่ กองรถถังเอบรามส์ที่ทันสมัย ผลิตโดยสหรัฐ แสดงการขับเคลื่อนและการออกอาวุธ
นายไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ร่วมชม เชื่อมั่นว่าการเสริมเขี้ยวเล็บทางทหารทำให้ชาติและประชาชนมีเกราะความมั่นคงเพิ่มขึ้นพิเศษ แล้วภูมิภาคจะเกิดสันติสุขและมีเสถียรภาพมากขึ้น
กองรถถังนี้เป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมด 108 คัน ที่กำลังทยอยส่งมอบและเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบ “ฮั่นกวง” ขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 1984 ปีนี้เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ใช้เวลายาวนานที่สุด 10 วัน เพราะกองทัพไต้หวันต้องการแสดงให้จีนและประชาคมโลกได้รับรู้ว่าไต้หวันมุ่งมั่นในการปกป้องตัวเองจากการโจมตีรุกรานของจีน ด้วยกำลังทหารกองหนุนเข้าร่วมมากที่สุด คือประมาณ 22,000 นาย เพิ่มขึ้นราว 50% จากปีที่แล้ว
ประชาชนไต้หวันยังได้มีส่วนในการซ้อมรบฮั่นกวง ด้านการป้องกันพลเรือน เช่น ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ พนักงานและลูกค้าเข้าร่วมการฝึกอพยพและการรับมือเหตุโจมตี ทางการส่งสัญญาณเตือนภัยผ่านโทรศัพท์ พร้อมทั้งส่งสัญญาณไซเรนเตือนภัยทางอากาศในเขตเมือง
ภาพรวมในปีนี้จึงดูจริงจังขึงขังมากกว่าที่ผ่านมา ที่เคยถูกวิจารณ์ว่าเป็นการซ้อมรบเพื่อพีอาร์มากกว่า สาเหตุที่ต้องเน้นเป็นพิเศษเพื่อป้องปรามจีน เนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีมากขึ้น
หลายปีมานี้จีนได้เพิ่มความเข้มข้นของ “สงครามพื้นที่สีเทา” ยุทธวิธีกดดันไต้หวันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการส่งเครื่องบินรบและเรือรบล้ำเข้าน่านฟ้าและน่านน้ำอย่างต่อเนื่อง
ตามทฤษฎีหนึ่งที่เชื่อว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดี กำหนดให้กองทัพจีนเตรียมพร้อมบุกไต้หวัน กำหนดเส้นตายปี 2027 ดยเฉพาะบรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐที่กล่าวหาว่าผู้นำจีนสั่งการเสริมศักยภาพเพื่อให้ตรงกับหมุดหมายสำคัญของจีน
หากเป็นจริงไต้หวันยังมีเรื่องให้ต้องคบคิด เพราะในปี 2027 สหรัฐยังจะมีผู้นำชื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ที่แม้ว่าจะถือว่าจีนเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง แต่กลับมีท่าทีคลุมเครือในเรื่องการปกป้องไต้หวัน เขาเพิ่งปฏิเสธให้ความเห็น เมื่อถูกถามว่าหากจีนบุกไต้หวัน สหรัฐจะเข้าไปขัดขวางหรือไม่
ไต้หวันอาจพึ่งพาสหรัฐได้มากในการจัดหาอาวุธและเศรษฐกิจการค้าการขาย แต่เรื่องการป้องกันการรุกรานจากจีน ยังต้องมุ่งเน้นพึ่งพาตัวเองด้วยการการซ้อมรบ และมาตรการด้านความมั่นคง ตามยุทธศาสตร์ทำให้ไต้หวันเป็น “เป้าหมายที่ยึดยาก” ของข้าศึกที่ใหญ่กว่า.-สำนักข่าวไทย