วอชิงตัน 10 ก.ค. – ผู้นำสหรัฐประกาศขึ้นภาษีทองแดงนำเข้า เป็นร้อยละ 50 มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ โดยอ้างเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ หลังจากส่งสัญญาณว่าจะขึ้นภาษีทองแดง ได้เพียง 1 วัน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้รับการประเมินด้านความมั่นคงแห่งชาติอย่างครบสมบูรณ์ว่าจำเป็นต้องใช้ภาษีใหม่กับทองแดง เพื่อปกป้องการผลิตทองแดงในสหรัฐ และว่าทองแดงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมหลายอย่าง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ เครื่องบิน ศูนย์ข้อมูล แบตเตอรี่ลิเทียมไออน ระบบป้องกันภัยกลาโหม โดยเป็นวัสดุที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ใช้มากเป็นอันดับ 2
ข้อมูลของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ สังกัดกระทรวงมหาดไทยสหรัฐ ระบุว่าสหรัฐนำเข้าทองแดงบริสุทธิ์เกือบครึ่งหนึ่งของการใช้งาน โดยเมื่อปีที่แล้วนำเข้ามากถึง 810,000 ตัน การที่สหรัฐขึ้นภาษีศุลกากรทองแดงนำเข้า เป็นร้อยละ 50 จะเป็นผลดีต่อการผลิตทองแดงในสหรัฐ ซึ่งมีการทำเหมืองมากกว่า 2 ใน 3 อยู่ในรัฐแอริโซนา ทางตะวันตกค่อนไปทางใต้ของประเทศ

รอยเตอร์ชี้ว่า ประเทศที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากอัตราภาษีทองแดงร้อยละ 50 ได้แก่ ชิลี แคนาดา และเม็กซิโก เนื่องจากเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ไปยังสหรัฐ ตามข้อมูลของสำนักสำมะโนสหรัฐ ก่อนหน้านี้ประเทศเหล่านี้แจ้งกับรัฐบาลสหรัฐ ว่าทองแดงส่งออกของพวกเขาไม่ได้เป็นภัยต่อผลประโยชน์ของสหรัฐ และไม่ควรถูกเก็บภาษี เพราะมีข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐ
ข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐปี 2568 ระบุว่า ปีที่แล้วสหรัฐนำเข้าทองแดงจากไทย ปริมาณ 21,000 ตัน คิดเป็นอันดับที่ 62 น้อยกว่าประเทศในอาเซียนอย่างเวียดนาม ที่สหรัฐนำเข้า 128,000 ตัน มาเลเซีย 50,000 ตัน อินโดนีเซีย 47,000 ตัน ฟิลิปปินส์ 24,000 ตัน และสิงคโปร์ 23,000 ตัน.-814.-สำนักข่าวไทย