9 ทันโลก : เมื่อ “ฮุน เซน” อ้างว่ากัมพูชาเป็นเหยื่อสแกมเมอร์

27 มิ.ย. – การแถลงของนายฮุน เซน วันนี้ เขาได้กล่าวถึงไทยว่าเป็นต้นตอของอาชญากรรมออนไลน์ รายงาน 9 ทันโลก จะพาไปสำรวจข้อมูล หลักฐานและพยาน ถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้


จากคำกล่าวหาและหลักฐานจากหลายฝ่ายที่ถาโถมใส่กัมพูชา ว่าเป็นแหล่งอาชญากรรมออนไลน์ และแก๊งหลอกลวงข้ามชาติ นายฮุน เซน ได้นำข้อกล่าวหานี้แย้งกลับมาใส่ไทย ว่าเป็นต้นตอทำให้กัมพูชากลายเป็นเหยื่อ

ผู้นำหมายเลขหนึ่งกัมพูชา ยกประเด็นที่กำลังถูกนานาชาติเพ่งเล็ง ตอบโต้แย้งคำกล่าวหา รายงานการศึกษาและการสืบสวนมากมาย เขาแถลงในวันนี้ว่ากัมพูชาเป็นเพียง “เหยื่อ” ของการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งมีต้นตอในไทยเป็นหลัก ดังนั้น จึงไม่ควรโทษผู้อื่น โดยเฉพาะเพื่อนบ้านกัมพูชา เรื่องปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ไทยเป็นต้นเหตุจริงหรือ กัมพูชาหรือไทยใครเป็นเหยื่อ


ในช่วงหลายปีมานี้ กัมพูชาตกเป็นข่าวเรื่องศูนย์กลางการฉ้อโกงระดับโลก ธุรกิจมืด และธุรกิจสีเทา มีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในต่างแดน และถูกล่อลวงเข้าไปในกัมพูชา บังคับเป็นแรงงานหลอกลวงมากมาย หน่วยงานต่างๆ ออกโรงกระตุ้นเตือนมานาน เช่น สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNOCD เมื่อต้นปีที่แล้ว ที่ชี้ว่ากัมพูชาเป็นประเทศหนึ่งในเอเชียที่อาชญากรรมเติบโต จากกาสิโน ไปสู่การฟอกเงิน และอาชญากรรมหลอกหลวงข้ามชาติ

ในปีนี้ UNODC ได้ออกรายงานอีกฉบับเมื่อเดือนเมษายน ช่วงหลังจากที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมียนมา เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วโลก ตีแผ่ว่าที่จริงกัมพูชา ศูนย์กลางอาชญากรรมที่ใหญ่ยิ่งกว่า

ต่อมาเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง รายงานวิชาการให้ข้อมูลน่าตกใจว่าอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติในกัมพูชา เคยทำรายได้สูงมากกว่าครึ่งหนึ่งของจีดีพีประเทศ


รายงานชื่อ นโยบาย และรูปแบบ อาชญากรรมข้ามชาติที่รัฐให้การสนับสนุนในกัมพูชาในฐานะภัยคุกคามความมั่นคงโลก ข้อมูลเจาะลึกลงไปอีกว่ากัมพูชาเป็นศูนย์กลางการฉ้อโกงอันดับหนึ่งของสแกมเมอร์ โดยมีพรรคการเมืองที่ครองอำนาจ บุคคลรายล้อมผู้นำโยงใยด้วยระบบอุปถัมภ์ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จากอาชญากร ตอกย้ำด้วยรายงานล่าสุดที่ออกมาเมื่อวานนี้เองขององค์กรนิรโทษกรรมสากล ออกรายงานตีแผ่การใช้แรงงานทาส การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และการทรมาน โดยกลุ่มอาชญากรรมในศูนย์สแกมเมอร์กว่า 50 แห่งทั่วกัมพูชา

ไม่เพียงแต่ใช้ข้อมูลจากการสืบสวนตรวจสอบนาน 18 เดือน นิรโทษกรรมสากลยังเผยคำให้การผู้รอดชีวิตเผยสภาพที่เรียกว่าเหยื่อต้องกลายเป็นทรัพย์สินของคนอื่น หนึ่งในนั้นคือวัยรุ่นไทยมีนามสมมติว่า หลุยส์ แบ่งปันประสบการณ์เฉียดตายในเงื้อมมือของแก๊งหลอกลวงออนไลน์กัมพูชา

เขาถูกล่อลวงเข้าไปทำงานในกัมพูชา โดยไม่รู้ว่าต้องถูกกักขังและบังคับให้ไปหลอกลวงคนแปลกหน้า ไม่เช่นนั้นก็ต้องถูกทรมาน นานเกือบปีที่ต้องทุกข์ทนกับสภาพราวกับเรือนจำ ทำงานตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงคืน ขังรวมกับเด็กๆ ที่บางคนอายุเพียง 13 ปี ทุกวันต้องถูกกลุ่มผู้คุมชาวจีน ที่มีกระบองไฟฟ้าเป็นเครื่องมือบีบบังคับ

จากเนื้อหารายงานของนิรโทษกรรมสากล ตรงกับสิ่งที่หลุยส์ต้องประสบมา รัฐบาลกัมพูชาปล่อยให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไร้การสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตรวจสอบ และความช่วยเหลือเหยื่อ ในบางครั้งที่ทางการบุกทลายกลุ่มอาชญากรไซเบอร์จนช่วยเหลือเหยื่อออกมาได้บางส่วน แต่เป็นเพียงส่วนหน่อย 1 ใน 3 ที่เหลือลอยนวล รายงานกล่าวหาถึงขั้นหัวหน้าแก๊งคุมตำรวจได้

ด้านรัฐบาลกัมพูชาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ว่าเกินจริง และมีแนวทางอย่างที่นายฮุน เซน ได้แถลงวันนี้ว่ารัฐบาลมียุทธศาสตร์ระดับชาติ การปฏิรูปกฎหมาย และกลไกการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดการกับการฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน ปฏิเสธหลักฐานของหลายหน่วยงาน ว่ารัฐมีส่วนร่วมและสมคบคิดกับอาชญากร แล้วยืนยันว่ากัมพูชาเป็นเหยื่ออาชญากรไซเบอร์

แต่หลุยส์คือชาวไทย เป็นเพียงหนึ่งในชาวต่างชาติหลายคนที่ต้องตกเป็นเหยื่อ หากไม่ใช่ความกล้าหาญของเขาที่เสี่ยงโดดจากอาคาร เขาคงอาจะไม่มีชีวิตรอดมาถึงวันนี้ เขาย้ำว่าเพื่อความปลอดภัยและชีวิตของคุณ หากพลาดไปคุณจะไม่ได้กลับออกมาจากกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย