กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – รอยเตอร์ ซึ่งเป็นสื่อสากล มีสำนักงานใหญ่อยู่ในอังกฤษ รายงานถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลไทย จากสถานการณ์ความขัดแย้งกับกัมพูชา ขณะที่กลุ่มเอ็นจีโอกล่าวหากัมพูชาเจตนาเพิกเฉยต่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
รอยเตอร์รายงานจากอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วของไทยในวันนี้ว่า เหตุทหารทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันเป็นเวลาสั้น ๆ บริเวณชายแดนเมื่อเดือนก่อน และมีทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายใช้มาตรการต่าง ๆ ตอบโต้กันไปมา ตั้งแต่การระดมกำลังพล การที่กัมพูชาระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากไทย และการที่ไทยปิดจุดผ่านแดนบางส่วนตามแนวพรมแดนทางบกร่วมกันยาว 817 กิโลเมตร
ความขัดแย้งนี้เพิ่มเชื้อฟืนให้แก่วิกฤตที่แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยกำลังเผชิญอยู่ ทั้งการหาทางฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซาและการพยายามประคับประคองรัฐบาลผสมที่ง่อนแง่น ท่ามกลางการชุมนุมประท้วงและการอาจถูกรัฐสภาลงมติไม่ไว้วางใจ กรณีคลิปเสียงสนทนากับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ เช้าวันนี้นายกรัฐมนตรีไทยได้ลงพื้นที่อำเภออรัญประเทศที่อยู่ตรงข้ามกับเมืองปอยเปตของกัมพูชา มีกลุ่มผู้สนับสนุนคอยต้อนรับพร้อมป้ายบอกรักขนาดใหญ่ แพรทองธารกล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า จุดประสงค์หลักของการลงพื้นที่วันนี้ คือ ต้องการมาดูผลจากการดำเนินนโยบายเข้มงวดชายแดน และดูว่ารัฐบาลสามารถช่วยเหลือสนับสนุนได้อย่างไร

และในเช้าวันเดียวกัน นายฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและบิดานายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาคนปัจจุบันได้สวมชุดลายพรางตรวจเยี่ยมกำลังพลและเจ้าหน้าที่ที่จังหวัดอุดรเมียนเจย ตรงข้ามกับจังหวัดสุรินทร์ของไทย รอยเตอร์ระบุว่า นายฮุน เซนซึ่งยังมีอิทธิพลอย่างสูงในการเมืองกัมพูชาเคยมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีกับนายกรัฐมนตรีไทย เนื่องจากสนิทสนมกับนายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา จนกระทั่งมีคลิปเสียงสนทนาที่แพรทองธารพูดถึงนายทหารไทยนายหนึ่งในทางเสื่อมเสีย เป็นเหตุให้พรรคภูมิใจไทยใช้เป็นเหตุผลในการถอนตัวจากร่วมรัฐบาลเมื่อสัปดาห์ก่อน และจะขอให้สภาลงมติไม่ไว้วางใจเพราะกรณีนี้ นอกจากนี้สมาชิกวุฒิสภาไทยกลุ่มหนึ่งยังได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ให้วินิจฉัยเรื่องจริยธรรมที่อาจทำให้แพรทองธารถูกถอดถอนจากตำแหน่งได้
ขณะเดียวกันองค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าวหารัฐบาลกัมพูชาในวันนี้ว่า จงใจเพิกเฉยต่อการกระทำผิดกฎหมายของแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ที่ล่อลวงคนจากทั่วโลก รวมทั้งเด็ก มาทำงานเยี่ยงทาสในศูนย์หลอกลวงออนไลน์ รายงานของกลุ่มนี้ระบุว่า สามารถระบุชี้ชัดศูนย์หลอกลวงออนไลน์ในกัมพูชาได้ 53 แห่ง และที่ตั้งต้องสงสัยอีกหลายสิบแห่ง บางแห่งอยู่ในกรุงพนมเปญด้วย ด้านโฆษกรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธเรื่องรัฐบาลไม่ดำเนินการใด ๆ.-814.-สำนักข่าวไทย