ปักกิ่ง 25 มิ.ย. – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ สาธารณรัฐประชาชนจีน เผยจีนยังเป็นโอกาสและเป็นหุ้นส่วนที่พึ่งพาได้ของไทยและอาเซียน รวมทั้งย้ำจุดยืนที่ว่า นานาประเทศต้องเคารพในอธิปไตยและสิทธิของจีนในการที่จะพัฒนาตนเอง
ในการพบหารือกันของคณะอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง กับ นายหลิว เจี้ยนเชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่กรุงปักกิ่ง วันที่ 25 มิถุนายน 2568 นายหลิว เจี้ยนเชา ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์และความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะในช่วงที่โลกเกิดวิกฤตปัญหา เช่น สถานการณ์โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ ซาร์ส (SARS) ซึ่งทั้งไทยและจีนร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในระดับภูมิภาคได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อหาทางรับมือกับวิกฤตโรคระบาด รวมถึงการช่วยเหลือกันในสถานการณ์ฉุกเฉินอีกหลายวาระ เช่น โรคระบาดโควิด-19 และภัยพิบัติอื่น ๆ นายหลิวกล่าวว่านอกจากความร่วมมือในระดับภาครัฐแล้ว กระทรวงวิเทศสัมพันธ์ฯ ก็ประสงค์จะเพิ่มความร่วมมือกันหน่วยงานระดับคลังสมอง และพรรคการเมืองต่าง ๆ ของไทยเพื่อประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและในระดับภูมิภาค
เมื่อกล่าวถึงสถานการณ์โลกปัจจุบัน ซึ่งต่างกำลังเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยต่างๆ ดังนั้น จีนและประเทศกำลังพัฒนาจึงควรร่วมมือกันมากขึ้น เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจระหว่างกันได้ว่า จะธำรงรักษาความสัมพันธ์ให้ดำเนินไปตามครรลองเดิม

ส่วนท่าทีและจุดยืนของจีนนัั้นยังคงไม่เปลี่ยนไปจากเดิม คือ ยึดมั่นในอธิปไตยและสิทธิในอาณาเขตแดน,ยึดมั่นในการรักษาสันติภาพ ยึดมั่นในกรอบการเจรจาความร่วมมือทั้ง กรอบเขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ (FTA) กรอบเจรจา ASEAN Cooperation Dialogue รวมทั้ง กรอบความตกลงหุ้นเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซป (RCEP) และ จีนปรารถนาที่จะร่วมมือกับนานาประเทศแบบได้ประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย ดังนั้น จึงควรเคารพในอธิปไตยของจีน และเคารพในสิทธิในการพัฒนาของจีน ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ของจีน ก็ย้ำว่า ในด้านเศรษฐกิจ จีนยังคงเป็นโอกาสของไทยและอาเซียน และสามารถเป็นที่พึ่งพาได้ นอกจากนี้ จีนซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศแห่งนวัตกรรม ก็พร้อมที่จะแบ่งปันเทคโนโลยีให้แก่ไทยและพันธมิตร
ด้านนายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงปักกิ่ง (2529-2533) รวมทั้งคณะอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง กล่าวชื่นชมการเปลี่ยนผ่านของจีนว่า เป็นต้นแบบที่หลายประเทศกำลังพัฒนา มองด้วยความสนใจ.-810.-สำนักข่าวไทย