24 มิ.ย. – ทั้งโลกพากันโล่งอก เมื่ออิหร่านกับอิสราเอลตกลงหยุดยิง แม้จะยังมีการกล่าวหาว่าละเมิดข้อตกลงกัน แต่แนวโน้มน่าจะสงบศึกได้
โลกผ่านช่วงเวลาแห่งความสับสน หลังอิสราเอลและอิหร่านสู้รบกัน แล้วสหรัฐเข้ามาร่วมวงด้วย สถานการณ์ล่าสุดเชื่อได้ว่าทุกฝ่ายหาทางลงได้ด้วยข้อตกลงหยุดยิง ยุติสงคราม 12 วัน จากนี้ไปสิ่งที่น่าคิดและติดตามคือ สงครามรอบนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในอิหร่าน
เช้าวันนี้ กรุงเตหะรานสงบเงียบ ต่างจากหลายวันที่ผ่านมาที่การสู้รบระหว่างชาติศัตรูเสี่ยงลุกลามเป็นสงครามใหญ่ ยิ่งเมื่อสองวันก่อน สหรัฐ พันธมิตรอิสราเอล ได้เข้าร่วมโจมตีอิหร่าน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้นำสหรัฐและทั้งโลกเข้าสู่จุดที่ไม่มีวันหวนกลับ ด้วยการโจมตีสถานที่สำคัญด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทั้งโลกต้องจับจ้องด้วยใจระทึกว่าอิหร่านจะเลือกโจมตีตอบโต้อย่างไร จะยกระดับการเผชิญหน้าไปขนาดไหน จะดึงชาติมหาอำนาจอื่นๆ เข้ามาร่วมวงหรือไม่

จนในที่สุดค่ำวานนี้ อิหร่านได้ตอบโต้ เลือกเล็งเป้าไปที่ฐานทัพในกาตาร์ 1 ใน 8 ฐานทัพของสหรัฐในตะวันออกกลาง แต่ที่สำคัญอิหร่านก็เลือกแจ้งกาตาร์ล่วงหน้าว่าจะโจมตี ทำให้สามารถยิงสกัดขีปนาวุธได้ทั้งหมด ไม่มีใครได้รับอันตราย
ต่อมาในเวลาเช้าที่กรุงเตหะราน เปรียบดังว่าไฟสงครามเคยลุกโชน สงบลงอย่างฉับพลัน ตามมาด้วยคำประกาศของนายทรัมป์ เป็นครั้งแรกว่าอิสราเอลและอิหร่านตกลงหยุดยิงกันแล้ว ทั่วโลกยังตกอยู่ในความสับสน ยังไม่มีใครอยากเชื่อ จนเมื่อมีคำยืนยันจากกองทัพอิสราเอลและรัฐบาลอิหร่านเตหะราน ในเวลาต่อมา ทั่วโลกถึงได้มั่นใจว่าข้อตกลงหยุดยิงเกิดขึ้นแล้วจริงๆ และตีความได้ว่าอิหร่านได้ตอบโต้สหรัฐแล้ว เลือกตอบโต้เชิงสัญลักษณ์เพื่อแก้แค้น แลกกับการสงบศึก
เท่ากับว่าสิ่งที่นายทรัมป์ เดิมพันให้ผลลัพธ์ตรงความต้องการของเขา สงคราม 12 วัน ตามที่เขาเรียกสิ้นสุดลงพร้อมกับการเสริมส่งบารมีของเขาในฐานะตัวแปรปิดจบ สภาพการณ์เทียบเคียงได้กับเมื่อ 5 ปีก่อน ที่พลเอก คาเซม โซาเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ถูกลอบสังหารในอิรัก ตามคำสั่งของนายทรัมป์ ระหว่างครองตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ในเวลานั้นอิหร่านก็เลือกตอบโต้ด้วยการโจมตีเชิงสัญลักษณ์เข้าใส่ฐานทัพสหรัฐในอิรัก ทหารบาดเจ็บกว่าร้อยนาย แต่สหรัฐถือว่าเปิดทางให้เอาคืนแล้วไปตอบโต้กลับ เท่ากับเป็นทางลงของทั้งสองฝ่าย และครั้งนี้เท่ากับการเดิมพันเสี่ยงสูงของนายทรัมป์ ให้ผลแล้ว
สำหรับอิหร่าน สงคราม 12 วัน ย่อมเกิดแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในสองด้าน หากการโจมตีของสหรัฐทำให้โครงการนิวเคลียร์อิหร่านพังทลายเป็นจุลตามที่ผู้นำสหรัฐกล่าวอ้างจริง จะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ เพราะโครงการนิวเคลียร์มีความหมายสำหรับอิหร่านมากกว่า ความมั่นคงด้านพลังงานและด้านการเมือง โครงการนิวเคลียร์ ถือเป็นหัวใจหลักของการปฏิวัติอิสลาม โค่นล้มระบอบกษัตริย์ และนำมาซึ่งระบอบสาธารณรัฐอิสลามในปัจจุบัน
ตั้งแต่การปฏิวัติอิสลาม การพัฒนานิวเคลียร์ผูกโยงเข้ากับหลักการความเป็นเอกราชในการสร้างชาติ อยาโตลเลาะห์ รูฮัลเลาะห์ โคไมนี วางหลักการจากพื้นฐานที่อิหร่าน ถูกเจ้าอาณานิคมตะวันตกกดขี่มาในอดีต ทำให้เป็นยุทธศาสตร์ชาติ เพราะพลังงานนิวเคลียร์เป็นหลักประกันความเป็นเอกราช เพื่อกำหนดชะตาชีวิตและความทันสมัยของชาวอิหร่านเอง ต่อมาโครงการนิวเคลียร์อิหร่านผูกโยงเข้ากับเกียรติภูมิและที่ยืนของอิหร่านในเวทีโลก ขณะที่อิหร่านถูกกล่าวหาว่ามุ่งพัฒนาเกินความจำเป็นแอบแฝงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ จนเกิดการเผชิญหน้ากับสหรัฐและชาติตะวันตกมายาวนาน
สงคราม 12 วัน จะยังทำให้ยุทธศาสตร์ชาติด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านไปต่อหรือไม่ คำตอบเรื่องนี้อยู่ที่คณะผู้ปกครองอิหร่านด้วย โครงการนิวเคลียร์อาจเป็นชนวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับผู้นำ หรือแม้แต่ระบอบการปกครองได้
ตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้ว อยาโตลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้แต่งตั้งคณะบุคคลจากสภาผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำหน้าที่เลือกผู้นำสูงสุดคนใหม่ แหล่งข่าวเผยตรงกันว่าสงครามรอบนี้เร่งรัดกระบวนการนี้ ประกอบกับมีความเห็นตรงกันมากขึ้นมากถึงเวลาต้องเปลี่ยนตัวแทนผู้นำ ปัจจุบันที่มีอายุ 86 ปี มีปัญหาสุขภาพ และเสี่ยงจากการหมายชีวิตของศัตรู ผู้นำคนใหม่ที่เล็งหาคือผู้ที่ยึดถือหลักการแห่งการปฏิวัติอิสลามของอยาโตลเลาะห์ โคไมนี เพิ่มเติมด้วยศักยภาพในการรับมือกับสิ่งท้าทายภายในและภายนอก
บุคคล 2 คน ที่มีโอกาสสูงสุดต่างรับประกันความต่อเนื่องคือ บุตรชายของผู้นำปัจจุบัน นายมอจตาบา คาเมเนอี อายุ 56 ปี ที่จะสืบทอดตำแหน่งอย่างไร้รอยต่อของฝ่ายอนุรักษ์นิยม หรือนายฮัซซัน โคไมนี ที่เป็นหลานของอยาโตลเลาะห์ ผู้นำการปฏิวัติ แต่มีหัวคิดปฏิรูปก้าวหน้า ผ่อนปรนหลักการศาสนาทางเลือกนี้อาจเป็นทางอยู่รอด เพราะมีแนวโน้มเป็นที่ยอมรับจากต่างชาติมากกว่า
สงคราม 12 วันจะเป็นตัวเร่งทำให้อิหร่านได้ผู้นำสูงสุดคนใหม่หรือไม่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าชาวอิหร่านจำนวนมากมองเช่นนั้น ไม่ว่าผู้ที่หลบหนีภาวะสงคราม ชาวอิหร่านภายในประเทศ หรือผู้ที่ลี้ภัยในต่างแดน หลายคนเห็นด้วยกับแนวคิดเปลี่ยนผู้ปกครองประเทศ และเชื่อว่าวันนั้นกำลังใกล้เข้ามาแล้ว.-สำนักข่าวไทย